ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

1. บทนำ

      ซูพีเรีย เอ. อาร์. ที. คลินิกรักษาผู้มีบุตรยากและวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน (เอส เอ อาร์ ที คลินิก) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทโอโอโกเนีย จำกัด และ/หรือบริษัท ซูพีเรีย เอ. อาร์. ที. (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือบริษัทในเครือ (ต่อไปนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ”)

      บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานความรับผิดชอบที่บริษัทฯ มีต่อลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่อ พนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการปกป้องซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้กับบริษัทฯ ในระหว่างเยี่ยมชม เว็บไซต์ https://www.thaisuperiorart.com/th หรือใช้แอพพลิเคชั่น หรือรับบริการอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และใช้งานโดยสุจริต รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม

      บริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงกำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ครอบคลุมถึงข้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุถึงตัวท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าจะได้รับจากท่านโดยตรงหรือเป็นการส่งต่อมาจากบุคคลที่สามก็ตาม ตั้งแต่การเก็บรวบรวม การนำข้อมูลเพื่อประมวลผล การเปิดเผย การจัดการข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้เพื่อธุรกิจของบริษัทฯ ให้สอดคล้องกับกฎหมายและใช้งานเท่าที่เจ้าของข้อมูลยินยอม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับการให้บริการเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น รวมทั้งการเข้ารับบริการของท่าน โดยในการใช้บริการดังกล่าวในแต่ละครั้งให้ถือว่าท่านได้อ่านและตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

2. คำนิยาม

  • ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา  หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น

3. แหล่งที่มาและการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ซึ่งสามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อประโยชน์ต่อท่านในระยะเวลาที่เหมาะสมจำเป็นต่อการให้บริการ 

      ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ยินยอมให้ข้อมูลกับเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อการขอรับบริการจากเราผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือช่องทางอื่นใด ตัวอย่างเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว หรือการโต้ตอบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือการให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของบริษัทฯ หรือจากความสมัครใจในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทฯ และท่าน

      นอกจากนี้ เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน ผู้แนะนำ เอเจนซี่ ที่ท่านให้ความยินยอมไว้ กรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด 

      ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการ อาจเป็นผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

      บริษัทฯ พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ เมื่อได้รับความยินยอมจากท่านก่อน ยกเว้นในกรณี เช่น       

            1.   เพื่อปฎิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการ หรือปฎิบัติตามสัญญาระหว่างท่านและบริษัทฯ

            2.   เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพ

            3.   เพื่อปฎิบัติตามกฎหมาย

            4.   เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของบริษัทฯ กรณีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาถึงสิทธิของท่านเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของท่าน

            5.   เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ

            6.   เพื่อปฎิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฎิบัติตามภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฎิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย

4.     ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

      ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้

  • ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล ไอดีไลน์ WhatsApp หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ
  • ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต และรายละเอียดบัญชีธนาคาร 
  • ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ
  • ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมสัมมนา
  • ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เช่น IP Address, Cookies, Online Appointment System
  • ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
  • ข้อมูล Feedback และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้
  • เราจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน ดังต่อไปนี้ เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากรรม เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน

5.     วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

      เราอาจประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกัน หรือการใดๆ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา สำหรับวัตถุประสงค์ดังนี้ 

        A:    เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์ ได้แก่

  • จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการ และการเข้าถึงบริการของท่าน ไม่ว่าทางออนไลน์หรือออฟไลน์
  • นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของบริษัทฯ
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอื่นซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
  • การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
  • ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือ
  • วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
  • รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะรักษาอยู่ในคลินิก
  • ปฏิบัติตามกฎของบริษัทฯ
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว

        B: เกี่ยวกับการตลาด (เฉพาะกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผล) ได้แก่

  • อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่สมาชิก
  • จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
  • สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
  • เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของเรา 

6.     การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

      เราอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด และเราจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

  • บริษัทในเครือข่าย ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่เรา หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของเรา เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 
  • หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น โรงแรม บริษัทรถเช่า บริษัทประกัน พันธมิตร และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการแก่ท่าน หรือตอบสนองตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
  • ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
  • เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
  • หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้

7.     การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

      บางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของบริษัทฯ ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม

      อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องถ่ายโอนข้อมูลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลที่ถ่ายโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไข และ/หรือสัญญา เพื่อให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่

            1)   ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด

            2)   เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น

            3)   เป็นการกระทำตามสัญญาของบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน

            4)   เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

8.     ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาบริการ นโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว บริษัทฯจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

9.     การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัย

  1. บริษัทฯ จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการการรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) โดยบริษัทฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น หรือตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่อธิบาย ไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากท่านไม่แสดงความยินยอมให้เราทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป บริษัทฯ จะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามขั้นตอนการทำลายข้อมูลและจะดำเนินการให้เสร็จโดยไม่ชักช้า
  3. บริษัทฯ จะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวม โดยบริษัทฯ จะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของท่าน ไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเตอร์เน็ตหรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยจำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
  4. บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่
  5. นอกจากนี้ เมื่อบริษัทฯ มีการส่งโอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ

10.   สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

      พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินี้มีผลใช้บังคับ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย

      สิทธิในการขอรับ (right to be informed) เป็นสิทธิที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้รับโดยไม่ต้องมีการร้องขอตามที่ระบุอยู่ในมาตรา 23 ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทฯในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งาน โดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ

ท่านอาจติดต่อบริษัทฯ/ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการใช้สิทธิของท่านดังต่อไปนี้

10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ

10.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ได้

10.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

10.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

10.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

10.6 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

10.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

     ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น และการลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัทได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

11.   การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

      บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการประกาศข้อมูลลงใน website ของบริษัทฯ https://www.thaisuperiorart.com/th โดยเร็วที่สุด

      ทั้งนี้หากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อได้ที่อีเมล services@thaisuperiorart.com

12.   ช่องทางการติดต่อเรา

      ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขอให้อัพเดตและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอื่นใดข้างต้นหรือสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ กรุณาดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบสำเนาหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง รายละเอียดการทำนัดหมายแพทย์ และข้อมูลการติดต่อกลับ เรื่องที่ต้องการติดต่อสอบถาม รายละเอียดของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เบอร์โทร อีเมล และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้  หรือหากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
      ท่านสามารถดาวน์โหลด “แบบฟอร์มคำร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” (ได้ที่นี่) กรอกคำร้องและส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อีเมล services@thaisuperiorart.com หรือท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ Call Center 063-904-8899 หรือตามที่อยู่นี้  บริษัทโอโอโกเนีย จำกัด เลขที่ 1126/2 อาคารวานิช 2 ชั้นล็อบบี้ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 / เบอร์โทรศัพท์ 02-035-1400

      ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าว

      นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 

ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2565 
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน