บริการฝากไข่ (Oocyte cryopreservation)

ฝากไข่คืออะไร
ฝากไข่ คือ กระบวนการเก็บรักษาเซลล์ไข่ของผู้หญิงไว้ใช้ในอนาคต โดยเริ่มจากการกระตุ้นไข่ในรังไข่และเจาะเก็บไข่ออกจากรังไข่ หลังจากนั้นนำไปแช่แข็ง ด้วยเทคนิคการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด โดยไข่จะถูกแช่แข็งโดยลดอุณหภูมิไปที่ -196°C อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งในเซลล์ไข่ ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพของไข่ไว้ได้ดีที่สุด และไม่ทำลายโครงสร้างภายในเซลล์ไข่ เมื่อต้องการมีบุตรในอนาคต ก็จะนำไข่ที่ถูกแช่แข็งไว้มาละลาย แล้วนำไปผสมกับอสุจิ ด้วยวิธี ICSI เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิและพัฒนาเป็นตัวอ่อนต่อไป
ฝากไข่ เพื่ออะไร
ผู้หญิงยุคใหม่วางแผนมีบุตรกันช้ามากขึ้น อาจเกิดจากหลายๆ เหตุผล เช่น หน้าที่การงาน ความมั่นคงทางการเงิน สถานะความสัมพันธ์ หรือเป้าหมายอื่นๆ ของชีวิต การรอให้ “ทุกอย่างพร้อม” ก่อนจะมีลูกกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถรอได้ คือ “เวลาของร่างกาย”
ไข่ของผู้หญิงนั้นมีจำนวนจำกัด สร้างครั้งเดียวตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา หลังจากนั้นจำนวนและคุณภาพของไข่จะลดลงเรื่อยๆ ตามอายุ โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ไข่จะเสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งไม่มีไข่เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
การฝากแช่แข็งไข่ไว้ช่วยลดปัญหามีบุตรยากในอนาคตได้ ช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์เมื่อถึงเวลาที่พร้อม เพราะเป็นการวางแผนสำรองในวันที่ร่างกายยังแข็งแรง เพื่อคงสภาพเซลล์ไข่ที่ “อ่อนวัย” เอาไว้ใช้ในอนาคต ในช่วงเวลาที่คุณพร้อมมีเจ้าตัวน้อย แม้จะมีอายุมากขึ้นก็ตาม
ฝากไข่เหมาะกับใครบ้าง?
ฝากไข่ อายุเท่าไหร่ ถึงเริ่มฝากได้
คำตอบสั้นๆ ก็คือ “ยิ่งเร็วยิ่งดี” เพราะเซลล์ไข่จะเสื่อมลงตามอายุโดยธรรมชาติ หากเริ่มวางแผนฝากไข่แต่เนิ่นๆ ก็จะเพิ่มโอกาสสำเร็จให้สูงขึ้น จึงควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก เพื่อตรวจประเมินปริมาณไข่ตั้งต้น และจะได้วางแผนได้อย่างเหมาะสมกับตัวเอง แต่ในทางปฏิบัติ คนที่อายุยังน้อยส่วนใหญ่จะยังไม่คิดถึงการวางแผนมีบุตรในอนาคต ทำให้ช่วงอายุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการฝากไข่อยู่ที่ 28 – 35 ปี เนื่องจาก
ฝากไข่ได้ถึงอายุเท่าไหร่
โดยทั่วไปการฝากแช่แข็งไข่ สามารถทำได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีไข่ให้กระตุ้น แต่ประสิทธิภาพทั้งจำนวนไข่และคุณภาพจะลดลงเรื่อยๆ ตามอายุ และอาจต้องใช้ยาในปริมาณที่สูงขึ้นในการกระตุ้นไข่ นอกจากนั้น อาจจะต้องทำกระบวนการกระตุ้นและเก็บไข่มากกว่า 1 รอบ เพื่อให้ได้จำนวนไข่ที่เหมาะสม ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงขึ้น และอัตราความสำเร็จในการนำไข่ไปใช้ในอนาคตจะต่ำกว่าการฝากไข่ตอนอายุน้อยกว่า 35 ปี
ดังนั้น หากยังไม่มีแผนที่จะมีบุตรในอนาคตอันใกล้ ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
ขั้นตอนการฝากไข่

สำหรับผู้หญิงที่กำลังวางแผนเรื่องอนาคตของการมีลูก และสงสัยว่า ฝากไข่ ทำยังไง หรือมี ขั้นตอนการฝากไข่ อย่างไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจ วิธีฝากไข่ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงการแช่แข็งไข่เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต
ฝากไข่ ขั้นตอน มีอะไรบ้าง?
ขั้นตอนที่ 1: การปรึกษาเบื้องต้น
เริ่มจากการพูดคุยกับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อซักประวัติทางการแพทย์โดยละเอียด และประเมินความเหมาะสมในการเก็บไข่ รวมถึงวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจเลือดและอัลตราซาวน์รังไข่/มดลูก
เป็นขั้นตอนสำคัญในการฝากไข่ โดยแพทย์จะตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนและดูจำนวนถุงฟองไข่ (Follicle Count) ในรังไข่ด้วยการทำอัลตร้าซาวด์ในช่วงวันที่ 2 หรือ 3 ของการมีประจำเดือน เพื่อประเมินคุณภาพรังไข่
ขั้นตอนที่ 3: การปรึกษาต่อเนื่อง
หลังทราบผลตรวจ แพทย์จะวางแผนการกระตุ้นไข่และเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มกระบวนการแช่แข็งไข่
เป็นหัวใจหลักของขั้นตอนการฝากไข่ โดยเริ่มจากการตรวจเลือดฮอร์โมนและตรวจอัลตราซาวน์ วัดจำนวนไข่ ตอนวันที่ 2 หรือ 3 ของประจำเดือน หลังจากนั้น แพทย์จะให้เริ่มฉีดยาฮอร์โมน เพื่อกระตุ้นให้ไข่ในรังไข่โตขึ้น โดยผู้รับการรักษาจะฉีดยาที่หน้าท้องวันละ 1 ครั้ง สามารถฉีดยาเองได้ เป็นระยะเวลาประมาณ 8-12 วัน โดยฮอร์โมนที่ฉีดจะกระตุ้นให้ไข่ในรังไข่โตขึ้นหลายๆใบพร้อมกัน ซึ่งจะต่างจากในรอบเดือนปกติตามธรรมชาติที่จะมีไข่โตเต็มที่แค่ใบเดียว
ขั้นตอนที่ 5: การตรวจติดตามผล
หลังจากเริ่มฉีดยากระตุ้นไข่ แพทย์จะนัดตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ทุก 3-5 วัน เพื่อประเมินการตอบสนองของรังไข่ต่อยาที่ให้ โดยวัดระดับฮอร์โมนและอัลตราซาวน์วัดขนาดและจำนวนไข่ และอาจมีการปรับขนาดยาให้เหมาะสม ตามการตอบสนองของไข่
ขั้นตอนที่ 6: ฉีดยากระตุ้นการตกไข่
เมื่อฟองไข่โตจนมีขนาดใหญ่ตามเกณฑ์ที่กำหนด (ประมาณ 18-20 มม.) แพทย์จะให้ฉีดยากระตุ้นการตกไข่ เพื่อให้ไข่ตกพร้อมกัน โดยจะฉีดก่อนวันเก็บไข่ประมาณ 36 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ 7: การเก็บไข่
ขั้นตอนการเก็บไข่ จะทำในห้องผ่าตัด เพื่อความสะอาดและปลอดภัย มีการดมยาสลบ จึงไม่รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการเก็บไข่ แพทย์จะใช้อุปกรณ์อัลตร้าซาวด์ร่วมกับเข็มขนาดเล็กสอดผ่านทางช่องคลอด และดูดเก็บเซลล์ไข่จากฟองไข่ทีละใบ ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที แล้วส่งให้ห้องปฏิบัติการทันที หลังจากนั้นผู้รับบริการจะนอนพักฟื้นประมาณ 1-2 ชั่วโมงจึงจะสามารถกลับบ้านได้ แนะนำให้มีคนมารับและควรหยุดพัก 1 วัน
ขั้นตอนที่ 8: แช่แข็งไข่และเก็บรักษา
เซลล์ไข่ที่เก็บได้จะถูกแช่แข็งด้วยกระบวนการที่เรียกว่า Vitrification หรือ “การแช่แข็งแบบผลึกแก้ว” ซึ่งลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วจนถึง -196°C เพื่อป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งที่ทำลายเซลล์ หลังจากนั้น ไข่ที่แช่แข็งแล้วจะถูกเก็บไว้ในถังไนโตรเจนเหลว รอจนกว่าจะตัดสินใจนำมาใช้ในอนาคต
ฝากไข่ เจ็บมั้ย
โดยรวมแล้ว ความเจ็บปวดในกระบวนการฝากไข่ถือว่าน้อยและสามารถทนได้ ความรู้สึกโดยรวมจะเป็นแค่ “ไม่สบายตัว” มากกว่า “เจ็บปวดรุนแรง”
โดยในช่วงฉีดยากระตุ้นไข่ เข็มที่ใช้ฉีดยาบริเวณหน้าท้องมีขนาดเล็กและสั้นมาก ความรู้สึกเจ็บจะเกิดขึ้นแค่ชั่ววินาทีเดียว และคนส่วนใหญ่สามารถฉีดเองได้ที่บ้านโดยไม่รู้สึกกลัว
เมื่อใกล้ถึงวันเก็บไข่ จะมีไข่เจริญเติบโตในรังไข่จำนวนหลายใบ อาจทำให้รู้สึกท้องอืด แน่นท้อง ตึงๆ หรือหน่วงๆ ที่ท้องน้อย คล้ายอาการก่อนมีประจำเดือน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณดีว่า ร่างกายตอบสนองต่อยาได้ดี และเป็นเรื่องปกติที่พบได้ส่วนในวันเก็บไข่ อาจเป็นขั้นตอนที่คนกลัวที่สุด แต่กลับเป็นขั้นตอนที่ไม่รู้สึกตัวและไม่รู้สึกเจ็บ เพราะมีการใช้ยานอนหลับหรือยาสลบอย่างอ่อน โดยหลังทำหัตการเก็บไข่ อาจมีความรู้สึกไม่สบายตัวจากอาการท้องอืด หรือปวดหน่วงเล็กน้อยที่ท้องน้อย ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการพักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน
อัตราความสำเร็จของการใช้เซลล์ไข่แช่แข็งด้วยเทคนิคการแช่แข็งไข่แบบผลึกแก้ว (Vitrification)
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเทคนิคการแช่แข็งเซลล์ไข่โดยลดอุณหภูมิลงอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นเทคนิคเดิม กับเทคนิคการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว พบว่า หลังจากการละลายเซลล์ไข่ที่เก็บรักษาด้วยวิธีการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว อัตราการมีชีวิตรอดของเซลล์ไข่เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 100% (สำหรับวิธีการแช่แข็งโดยลดอุณหภูมิลงอย่างช้าๆ จะอยู่ที่ 50-60%) นอกจากนี้อัตราการปฏิสนธิ การพัฒนาของตัวอ่อน และการตั้งครรภ์ก็เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
ผลการศึกษาทางคลินิกล่าสุด (Cobo 2008*) จากเซลล์ไข่แช่แข็งด้วยเทคนิค Vitrification 693 ใบ พบว่า
ข้อดีของการเก็บรักษาไข่ด้วยวิธี Egg Freezing แช่แข็งไข่


ฝากไข่ เก็บได้กี่ปี
อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตของผู้ที่สนใจฝากไข่ ก็คือ ฝากไข่ได้กี่ปี ไข่ที่ฝากไว้สามารถเก็บได้นานแค่ไหน ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว สามารถเก็บได้นานโดยไม่จำกัดเวลา เพราะเมื่อไข่ถูกแช่แข็งด้วยเทคนิค Vitrification ที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียสและเก็บรักษาในไนโตรเจนเหลว กระบวนการทางชีวภาพทั้งหมดของเซลล์จะหยุดลงอย่างสมบูรณ์ เซลล์ไข่จะคงคุณภาพไว้ได้เทียบเท่ากับวันที่ถูกแช่แข็ง ไม่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา
นั่นหมายความว่า หากฝากไข่ตอนอายุ 30 ปี แม้จะนำมาใช้งานตอนอายุ 45 ปี เซลล์ไข่นั้นก็ยังคงมีคุณภาพในระดับเดียวกับตอนอายุ 30 ปี
อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมายและทางปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามทำการผสมเทียม (นำไข่มาปฏิสนธิและย้ายกลับเข้าโพรงมดลูก) ให้แก่หญิงที่อายุเกิน 55 ปีบริบูรณ์
นั่นหมายความว่า เจ้าของไข่สามารถเก็บไข่แช่แข็งไว้ได้นานเท่าไหร่ก็ได้ แต่จะต้องนำไข่มาใช้ก่อนอายุครบ 55 ปี นอกจากนั้น การฝากไข่แช่แข็งมีค่าบริการรายปี ตราบใดที่ยังมีการชำระค่าบริการอยู่ ทางคลินิกก็จะเก็บรักษาไข่ไว้ให้ แต่หากไม่มีการชำระหรือขาดติดต่อเป็นเวลานาน ทางคลินิกอาจมีนโยบายทำลายไข่ตามข้อตกลงที่เซ็นไว้ในเอกสารยินยอม
ฝากไข่ ค่าใช้จ่าย ประมาณเท่าไร
การฝากไข่ ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาล แต่โดยทั่วไปแล้ว ฝากไข่ ค่าใช้จ่ายต่อ 1 รอบจะอยู่ที่ประมาณ 120,000 – 250,000 บาท โดยหลังจากแช่แข็งไข่แล้ว จะมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาในถังไนโตรเจนเหลว ซึ่งจะคิดเป็นรายปีโดยการฝากไข่ ราคาต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาการฝากไข่ จะประกอบไปด้วยสถานพยาบาล แพ็กเกจและโปรโมชั่น และจำนวนรอบที่ทำ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการฝากไข่ หากเก็บไข่ได้ไม่ถึงเป้าในรอบแรก อาจจำเป็นต้องทำซ้ำ ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ฝากไข่ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ดีอย่างไร
สำหรับใครที่กำลังมองหาว่า ฝากไข่ที่ไหนดี การฝากไข่ที่ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มีจุดเด่นที่สำคัญคือ เทคโนโลยีและมาตรฐานระดับสากลจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์และเป็นผู้บุกเบิกเทคนิคการแช่แข็งไข่แบบผลึกแก้ว (Vitrification) ทำให้มีอัตราการรอดของไข่หลังการละลายสูงมาก ประกอบกับห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง จึงมั่นใจได้ว่ากระบวนการกระตุ้นไข่ การเก็บไข่ ไปจนถึงการแช่แข็งไข่จะถูกดำเนินการด้วยมาตรฐานสากล เพื่อให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพดีที่สุดสำหรับอนาคต
นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้ว ความน่าเชื่อถือและการบริการด้วยความเข้าใจและความใส่ใจ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ผู้รับบริการสามารถไว้วางใจได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษาที่ละเอียด การวางแผนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ไปจนถึงระบบการเก็บรักษาไข่ระยะยาวที่ปลอดภัยและมีการควบคุมอย่างเข้มงวด การเลือกฝากไข่ที่ Superior A.R.T. ไม่ใช่แค่เรื่องของการวางแผนครอบครัว แต่คือการดูแลสุขภาพและอนาคตในแบบที่คุณควบคุมได้
บทความโดย

พญ. นิศารัตน์ สุนทราภา
สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และภาวะการมีบุตรยาก