Superiorgenix Carrier Screening Test การตรวจคัดกรองพาหะโรคทางพันธุกรรมในคู่สมรสก่อนการตั้งครรภ์ คืออะไร จำเป็นไหม
🔬เราอาจส่งต่อโรคทางพันธุกรรมไปยังลูกน้อยโดยไม่รู้ตัว การตรวจคัดกรองพาหะโรคทางพันธุกรรมในคู่สมรส คืออะไร? จำเป็นไหม? ช่วยลดโอกาสในการส่งต่อโรคทางพันธุกรรมได้หรือไม่? 🧬
การตรวจคัดกรองพาหะโรคทางพันธุกรรมในระดับยีน (Superiorgenix Carrier Screening Test) คือนวัตกรรมการตรวจวิเคราะห์เพื่อหาพาหะของโรคทางพันธุกรรมในคู่สมรส ที่อาจมีความผิดปกติของยีนแฝงอยู่ ซึ่งสามารถส่งต่อความบกพร่องทางพันธุกรรมนั้นสู่ทารก ทำให้เกิดความพิการของเด็กได้ แม้ว่าภายนอกคู่สมรสอาจดูมีสุขภาพแข็งแรง แต่โดยทั่วไปพบว่าอาจเป็นพาหะของโรคพันธุกรรมประมาณ 1–3%
ดังนั้นการตรวจคัดกรองยีนพาหะโรคทางพันธุกรรมนี้ จะช่วยให้คู่สมรสที่ต้องการมีบุตร สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคที่อาจถ่ายทอดไปยังบุตรได้ ซึ่งการตรวจคัดกรองนี้สามารถทำได้โดยเก็บตัวอย่างการตรวจจากน้ำลาย โดยใช้ระยะเวลาตรวจประมาณ 14-21 วัน
ทำไมจึงควรตรวจคัดกรองยีนพาหะโรคทางพันธุกรรม มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
การตรวจนี้ จะช่วยวิเคราะห์ยีนที่มีความผิดปกติได้กว่า 300 ยีน ซึ่งทำให้สามารถวิเคราะห์หาพาหะของโรคพันธุกรรมที่มีโอกาสก่อให้เกิดความพิการและทุพพลภาพในอวัยวะต่างๆ ของทารกได้ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคธาลัสซีเมีย โรคตาบอดสี กลุ่มอาการโครโมโซมเอ็กซ์เปราะบาง เป็นต้น ดังนั้นการตรวจก่อนการตั้งครรภ์ จะช่วยลดความเสี่ยง และช่วยวางแผนการมีบุตรได้อย่างเหมาะสม
ใครเหมาะสำหรับการตรวจ?
✅ คู่สมรสที่กำลังวางแผนการมีบุตร
✅ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคทางพันธุกรรม
✅ ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงของการมีลูกที่มีความผิดปกติจากพันธุกรรม
คู่สมรสที่กำลังวางแผนจะมีบุตรจากกระบวนการเด็กหลอดแก้ว และต้องการทราบว่าตัวเองและคู่ครองมีพาหะของยีนแฝงอยู่หรือไม่ สามารถเข้ามาปรึกษาและตรวจคัดกรองกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทุกวันที่ Superior A.R.T. ค่ะ
ข่าวสารและบทความอื่นๆ
อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ของสาวๆ แต่ละช่วงอายุ เมื่อเทียบกับการใช้เทคโนโลยี ART เข้ามาช่วย
รู้หรือไม่ว่า อัตราการตั้งครรภ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI ของ Superior A.R.T. ร่วมกับการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน PGT สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้มากขึ้นได้