𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫𝐢𝐨𝐫 𝐀.𝐑.𝐓. 𝐋𝐈𝐕𝐄 : 🅔🅟.46 ❝ ตู้เลี้ยงตัวอ่อน Geri® ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้น ได้อย่างไร ❞
ตู้เลี้ยงตัวอ่อนแบบติดกล้อง หรือที่เรียกว่า Time-Lapse Incubator มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้อย่างไร?
กระบวนการเลี้ยงตัวอ่อนเป็นอย่างไร?
ในขั้นตอนการรักษาผู้มีบุตรยาก เมื่อคู่สมรสเข้ามาปรึกษากับคุณหมอ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุ และเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งขั้นตอนการรักษานั้น จะอ้างอิงจากการตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติ คือ เมื่อไข่ออกมาจากรังไข่ จะผสมกับอสุจิที่บริเวณปีกมดลูก เมื่อปฏิสนธิสำเร็จ ตัวอ่อนจะพัฒนา มีการแบ่งเซลล์ขึ้นเรื่อยๆ เคลื่อนที่เข้าสู่โพรงมดลูก และฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูก ในตัวอ่อนระยะวันที่ 5 หรือวันที่ 6 ที่เรียกว่า ตัวอ่อนระยะ บลาสโตซีสต์ (Blastocyst)
การเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ จะเป็นการจำลองมดลูกของคุณแม่ ด้วยการใช้ตู้เลี้ยงตัวอ่อน รวมไปถึงน้ำยาที่เป็นสารอาหารให้กับตัวอ่อน ที่มีความเหมาะสมกับตัวอ่อนในแต่ละระยะ ตั้งแต่ออกมาจากรังไข่ไปจนถึงโพรงมดลูก
ซี่งนอกจากน้ำยาแล้ว สิ่งที่สำคัญในการเลี้ยงตัวอ่อนคือตู้เลี้ยงตัวอ่อน หรือที่เรียกว่า Incubator
โดยภายในตู้เลี้ยงตัวอ่อน จะมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และก๊าซ ในปริมาณที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับสภาวะภายในร่างกาย ซึ่งตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงในตู้เลี้ยงเป็นเวลา 5-6 วัน เพื่อให้ตัวอ่อนพัฒนาเป็น ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) เพื่อตรวจโครโมโซม แช่แข็ง หรือ ย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ต่อไป
ตู้เลี้ยงตัวอ่อนมี 2 ประเภท
1) Standard Incubator หรือ Conventional Incubator เป็นตู้เลี้ยงตัวอ่อนแบบมาตรฐานทั่วไป มีฝาปิด เพื่อป้องกันการรบกวนจาก สิ่งแวดล้อมภายนอก โดยใน 1 ห้องเลี้ยง จะสามารถวางจานเลี้ยงตัวอ่อนได้ หลายจาน และต้องนำจานเลี้ยงตัวอ่อนออกมาจากตู้เลี้ยง เพื่อดูพัฒนาการของตัวอ่อนที่กล้องจุลทรรศน์
2) Time-Lapse Incubator เป็นตู้เลี้ยงตัวอ่อนที่มีกล้องจุลทรรศน์และกล้องบันทึกภาพติดตั้งไว้ภายในห้องเลี้ยง ทำให้สามารถติดตามการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำจานเลี้ยงตัวอ่อนออกมานอกตู้ ลดการรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และย้อนดูพัฒนาการของตัวอ่อนได้ เพื่อเลือกตัวอ่อนก่อนย้ายกลับสู่โพรงมดลูกได้แม่นยำมากขึ้น
Geri® Time-Lapse Incubator คือ อะไร?
ตู้เลี้ยงตัวอ่อน แบบ Time-Lapse Incubator ที่ Superior A.R.T. เลือกใช้ คือ Geri® Time-Lapse Incubator โดยตู้นี้จะแบ่งออกเป็น 6 ช่อง และในแต่ละช่องจะใช้เลี้ยงตัวอ่อนสำหรับคนไข้ 1 คนเท่านั้น ไม่นำมาปนกัน นอกจากนี้ Geri® ยังเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถจัดการแต่ละเคสผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้
Geri® ช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้อย่างไร?
คุณสมบัติเด่นของ Geri® Time-Lapse Incubator คือ ตัวอ่อนของคนไข้จะอยู่แยกกันในแต่ละช่องของตัวเอง ซึ่งในแต่ละช่องจะมีขนาดเล็ก ทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิและควบคุมแก๊สได้ดี เมื่อเปิด/ปิดฝาตู้เลี้ยงตัวอ่อน อุณหภูมิและสภาวะต่างๆ ในแต่ละช่องจะสามารถกลับมาอยู่ในการควบคุมได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Standard Incubator ที่มีฝาที่กว้างกว่า พื้นที่ที่กว้างกว่า การกลับมาของอุณหภูมิและแก๊สก็จะช้ากว่า
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาวะของแก๊ส ส่งผลให้ตัวอ่อนแบ่งตัวได้ช้าลง หรือเจริญเติบโตได้ไม่ดี การที่เราควบคุมอุณหภูมิและแก๊สให้กลับมาอยู่ในสภาวะเดิมได้เร็ว จะยิ่งทำให้ตัวอ่อนอยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ ในแต่ละช่องของ Geri® จะติดตั้งกล้องกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็กและกล้องบันทึกภาพของตัวอ่อนในแต่ละช่องแยกกัน และถ้าในกรณีที่ช่องไหนเสีย ก็ไม่จำเป็นต้องปิดเครื่อง เพราะสามารถแก้ไขช่องใดช่องหนึ่งได้ โดยที่ช่องอื่นๆ ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้
นอกจากนี้ ตู้ Geri® สามารถเลี้ยงตัวอ่อนด้วยระบบการเลี้ยงตัวอ่อนแบบควบคุมความชื้น (humidity technology) เพื่อช่วยรักษาสมดุลของ Osmolality และรักษาค่า pH ของน้ำยาได้ดีขึ้น ตัวอ่อนที่อยู่ในตู้เลี้ยงที่มีความชื้น จึงมีคุณภาพที่ดีกว่า และได้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์มากขึ้น
เมื่อได้จำนวนตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์มากขึ้น โอกาสที่จะนำไปใส่กลับในโพรงมดลูก หรือนำไปตรวจโครโมโซมก็สูงขึ้น ซึ่งมีการศึกษาที่เปรียบเทียบอัตราการตั้งครรภ์จากการใส่กลับตัวอ่อนจากที่เลี้ยงในตู้ Geri® กับที่เลี้ยงใน Standard Incubator พบว่าอัตราการตั้งครรภ์ของตัวอ่อนที่เลี้ยงในตู้ Geri® สูงกว่าอัตราการตั้งครรภ์ของตัวอ่อนที่เลี้ยงใน Standard Incubator
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ตู้ Geri® ได้รับรางวัลมากมาย เช่น Good Design Awards จากประเทศสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย โดย Superior A.R.T. เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่นำตู้เลี้ยงตัวอ่อน Geri® เข้ามาใช้ตั้งแต่ปี 2017