ข่าวสารและบทความ

IUI คืออะไร ราคาเท่าไร กระบวนการทำ IUI ฉบับเข้าใจง่าย

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ การทำ IUI หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับความนิยม ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยา

ในบทความนี้ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. จะอธิบายรายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่ความหมายของ IUI, ใครที่เหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้ ไปจนถึงขั้นตอนการทำ IUI อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ใช้ในการวางแผนการรักษาต่อไป

IUI คือ อะไร?

IUI หรือ Intrauterine Insemination คือ เทคนิคการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก ด้วยการนำเชื้ออสุจิที่ผ่านการเตรียมทางห้องปฏิบัติการเพื่อช่วยให้ได้อสุจิที่เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นฉีดกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง ทำให้สเปิร์มสามารถว่ายไปถึงเซลล์ไข่และเกิดการปฏิสนธิได้ง่ายกว่าวิธีธรรมชาติและเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ดีขึ้น

เนื่องจาก IUI เป็นวิธีที่ง่ายและมีขั้นตอนน้อยกว่าการรักษาภาวะมีบุตรยากอื่นๆ อย่างการทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF หรือ ICSI (อิ๊กซี่) ค่าใช้จ่ายจึงต่ำกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า และเป็นวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากลำดับแรกที่แพทย์มักแนะนำก่อนที่จะเลือกใช้เทคนิคการรักษาขั้นสูงอื่นๆ ต่อไป

IUI เหมาะกับใคร

การทำ IUI เหมาะสมสำหรับคู่ที่มีภาวะมีบุตรยากในกรณีมีปัญหาไม่ซับซ้อน โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ได้แก่

  • ฝ่ายหญิงต้องมีท่อนำไข่ที่ปกติอย่างน้อยหนึ่งข้าง เพื่อให้อสุจิสามารถเดินทางไปพบกับไข่และเกิดการปฏิสนธิได้
  • ฝ่ายชายต้องมีคุณภาพน้ำเชื้ออยู่ในเกณฑ์ปกติหรือต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย การปั่นคัดเชื้อจะช่วยเลือกเฉพาะอสุจิที่แข็งแรงมาใช้ โดยหลังการคัดเชื้อ ควรมีจำนวนอสุจิที่เคลื่อนไหวได้ดี (TMSC) มากกว่า 5–10 ล้านตัวขึ้นไป

นอกจากนี้ IUI ยังเหมาะสำหรับกรณีอื่นๆ เช่น

  • เหมาะกับกรณีที่หาสาเหตุไม่พบ (Unexplained Infertility) ซึ่ง IUI จะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ด้วยการร่นระยะทางและเพิ่มความเข้มข้นของอสุจิ
  • ฝ่ายหญิงมีปัญหาไข่ไม่ตก เช่น ภาวะ PCOS ซึ่งแพทย์สามารถกระตุ้นการตกไข่และกำหนดวันฉีดเชื้อให้สอดคล้องกันได้อย่างแม่นยำ
  • ปัญหาบริเวณปากมดลูกที่ขัดขวางการผ่านของอสุจิ การฉีดเชื้อจะช่วยข้ามอุปสรรคนั้นไปได้
  • คู่ที่มีปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ตามวิธีธรรมชาติได้
  • ผู้ที่จำเป็นต้องใช้เชื้ออสุจิบริจาค กรณีที่ฝ่ายชายไม่มีอสุจิเลย

การทํา IUI ให้สําเร็จ มีปัจจัยอะไรบ้าง

แม้จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและไม่ซับซ้อน แต่การทำ IUI ให้สำเร็จ ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ดังนี้

ปัจจัยการทำ IUI ในฝ่ายหญิง

  1. อายุ เพราะคุณภาพและปริมาณของไข่จะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายหญิงอายุน้อยกว่า 35 ปีมักมีโอกาสสำเร็จสูงกว่า ในขณะที่อายุ 35-40 ปี โอกาสสำเร็จเริ่มลดลง และในฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 40 ปี โอกาสสำเร็จจะต่ำลงอย่างชัดเจน
  2. ท่อนำไข่ ต้องมีท่อนำไข่ที่ปกติและไม่ตันอย่างน้อย 1 ข้าง เนื่องจากการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นในท่อนำไข่ หากทั้งสองข้างตัน ควรพิจารณาการทำเด็กหลอดแก้วแทน
  3. การตกไข่ ต้องมีการตกไข่ที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตามธรรมชาติหรือใช้ยาช่วยกระตุ้นไข่ หากไม่มีไข่ตกในรอบเดือนนั้น การทำ IUI จะไม่ได้ผล
  4. ความสมบูรณ์ของโพรงมดลูก โพรงมดลูกต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีพังผืด เนื้องอก หรือติ่งเนื้อ ที่อาจขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน
  5. เยื่อบุโพรงมดลูก ควรมีความหนาที่เหมาะสมคือ มากกว่า 7-8 มิลลิเมตร เพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อน

ปัจจัยการทำ IUI ในฝ่ายชาย

  1. คุณภาพของน้ำเชื้ออสุจิ เป็นปัจจัยสำคัญของฝ่ายชาย โดยเฉพาะจำนวนอสุจิที่เคลื่อนไหวได้ดี (TMSC) หลังปั่นคัดเชื้อในห้องปฏิบัติการ ควรมากกว่า 5–10 ล้านตัว จึงจะมีโอกาสสำเร็จที่ดี หากน้อยกว่านี้โอกาสจะลดลงอย่างมาก
  2. การเคลื่อนไหว (Motility) อสุจิต้องว่ายไปข้างหน้าได้ดี
  3. รูปร่าง (Morphology) อสุจิที่มีรูปร่างปกติจะมีโอกาสปฏิสนธิกับไข่ได้ดีกว่า
ในการทำ IUI อสุจิที่มีรูปร่างปกติจะมีโอกาสปฏิสนธิกับไข่ได้ดีกว่า

ปัจจัยร่วมอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการทำ IUI

  • ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดเชื้อ: ควรอยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกับเวลาที่ไข่ตกมากที่สุด โดยแพทย์จะติดตามการเจริญของฟองไข่ด้วยการทำอัลตราซาวด์ และอาจใช้ยากระตุ้นให้ไข่ตก (hCG trigger shot) เพื่อกำหนดเวลาให้แม่นยำยิ่งขึ้น
  • ขนาดของฟองไข่ (Follicle): ขนาดไข่ที่เหมาะสม IUI ควรมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 18–20 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นช่วงที่ไข่มีความสมบูรณ์พร้อมต่อการปฏิสนธิ
  • เทคนิคและความชำนาญของแพทย์: ส่งผลต่อการประเมินเวลาและกระบวนการต่างๆ ให้แม่นยำที่สุด
  • ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์: เช่น น้ำหนักตัว การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย ล้วนมีผลต่อโอกาสการตั้งครรภ์

IUI ข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง

การตัดสินใจทำ IUI ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียให้รอบด้าน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละคู่ โดยเราสามารถเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการทำ IUI ได้ดังนี้

ข้อดีของ IUI

  1. ราคาไม่สูง เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อื่นๆ อย่างการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) แล้ว ค่าใช้จ่ายในการทำ IUI ต่อรอบนั้นต่ำกว่าหลายเท่าตัว ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและสามารถทำซ้ำได้หลายรอบโดยไม่กระทบการเงินมาก
  2. เจ็บตัวน้อยและส่งผลต่อร่างกายน้อยกว่า ขั้นตอนการฉีดเชื้อใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที คล้ายกับการตรวจภายใน ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่ต้องผ่าตัด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบทางร่างกายของฝ่ายหญิงน้อยกว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการทำเด็กหลอดแก้ว ที่ต้องมีการฉีดยากระตุ้นไข่ในปริมาณสูงรวมถึงมีขั้นตอนในการเก็บไข่และการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก
  3. ใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติมากกว่า IUI เป็นเพียงการ “ช่วย” ส่งอสุจิไปให้ถึงที่หมาย แต่กระบวนการปฏิสนธิยังคงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติภายในร่างกายของฝ่ายหญิงในท่อนำไข่ ซึ่งทำให้หลายคู่รู้สึกสบายใจมากกว่าการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ
  4. ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและผลข้างเคียงจากยา ขั้นตอนการทำ IUI โดยทั่วไปจะไม่ซับซ้อนและมีความยุ่งยากน้อยกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยาได้มากกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้รอบธรรมชาติซึ่งอาจไม่ต้องใช้ยาเลย หรือหากจำเป็นต้องใช้ยากระตุ้นไข่ ก็จะใช้ในปริมาณที่ต่ำกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว จึงทำให้ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนน้อยลงตามไปด้วย
  5. เป็นทางเลือกแรกสำหรับคู่ที่มีภาวะมีบุตรยาก IUI เหมาะสมและเป็นตัวเลือกแรกที่ดีในกรณีที่มีภาวะมีบุตรยากที่ไม่ซับซ้อน เช่น ภาวะมีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ, ปัญหาน้ำเชื้อต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย, ปัญหาที่เกี่ยวกับปากมดลูก หรือภาวะไข่ไม่ตกที่สามารถแก้ไขได้ด้วยยา

ข้อเสียของ IUI

  1. อัตราความสำเร็จไม่สูงเท่าการทำเด็กหลอดแก้ว อัตราการตั้งครรภ์ต่อรอบของ IUI จะอยู่ที่ประมาณ 10-15% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าส่วนใหญ่มักจะต้องทำซ้ำหลายรอบกว่าจะสำเร็จ ในขณะที่ การทำเด็กหลอดแก้วมีอัตราความสำเร็จต่อรอบสูงกว่าอย่างชัดเจน โดยอาจสูงถึง 60% หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอายุและสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
  2. มีเงื่อนไขและข้อจำกัด
    1. ท่อนำไข่ต้องไม่ตัน: ฝ่ายหญิงต้องมีท่อนำไข่ที่ปกติและทำงานได้ดีอย่างน้อย 1 ข้าง หากท่อนำไข่ตันทั้ง 2 ข้าง จะไม่สามารถทำ IUI ได้เลย
    2. คุณภาพอสุจิต้องดีพอสมควร: ไม่เหมาะกับกรณีที่ฝ่ายชายมีปัญหาน้ำเชื้อรุนแรง เช่น มีจำนวนอสุจิน้อยมาก หรือเคลื่อนไหวได้ไม่ดีเลย ซึ่งในกรณีนี้ต้องข้ามไปทำ ICSI
  3. ไม่สามารถยืนยันการปฏิสนธิได้ หลังฉีดเชื้อเข้าไปแล้ว เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอสุจิได้เข้าไปปฏิสนธิกับไข่จริงหรือไม่ ต้องรอตรวจการตั้งครรภ์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าเท่านั้น ซึ่งต่างจากการทำเด็กหลอดแก้ว ที่สามารถเห็นการปฏิสนธิและพัฒนาการของตัวอ่อนได้ในห้องปฏิบัติการ
  4. ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์แฝด หากมีการใช้ยากระตุ้นไข่ จะมีความเสี่ยงที่ไข่จะสุกพร้อมกันหลายใบ ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ลูกแฝด ซึ่งถือเป็นการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งต่อแม่และทารก
  5. สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายหากทำหลายรอบ แม้การทำ IUI จะมีค่าใช้จ่ายต่อรอบไม่สูงนัก แต่หากต้องทำซ้ำหลายครั้ง เช่น 4-6 รอบ แล้วยังไม่สำเร็จ ค่าใช้จ่ายรวมอาจใกล้เคียงกับการทำเด็กหลอดแก้ว 1 รอบ อีกทั้งยังทำให้เสียเวลาและพลาดโอกาสที่เหมาะสมในการตั้งครรภ์อีกด้วย

ตารางเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของการทำ IUI

หัวข้อข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการทำเด็กหลอดแก้วมากหากทำหลายรอบอาจมีค่าใช้จ่ายสะสมสูง
กระบวนการเจ็บตัวน้อย ไม่ซับซ้อนมีข้อจำกัด (ท่อนำไข่ต้องไม่ตันอย่างน้อย 1 ข้าง, เชื้ออสุจิต้องดีพอ)
ความสำเร็จเป็นทางเลือกแรกที่ดีสำหรับบางคู่อัตราความสำเร็จต่อรอบต่ำ (10-15%)
ารปฏิสนธิใกล้เคียงธรรมชาติไม่สามารถรู้ว่ามีการปฏิสนธิระหว่างอสุจิและไข่หรือไม่
ความเสี่ยงผลข้างเคียงจากยาน้อยมีความเสี่ยงตั้งครรภ์แฝด หากใช้ยากระตุ้นไข่

IUI ขั้นตอนมีอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้วการทำ IUI จะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้คุณได้เข้าใจและเตรียมความพร้อมก่อนมาพบคุณหมอ เรามาเจาะลึกขั้นตอนการทํา IUI อย่างละเอียด ว่าในแต่ละขั้นตอนมีอะไรบ้าง

1. ปรึกษาแพทย์และตรวจร่างกาย

เมื่อไหร่: เมื่อคุณสะดวกในการทำนัดหมาย

ใช้เวลานานแค่ไหน: 30-45 นาที

ก่อนเริ่มต้นกระบวนการรักษาใดๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการนัดพบและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และภาวะการมีบุตรยาก เพื่อประเมินสภาพร่างกายและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ในขั้นตอนนี้ แพทย์จะสอบถามประวัติ ตรวจร่างกาย และแนะนำการตรวจเพิ่มเติมตามสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก เช่น การตรวจระดับฮอร์โมน ตรวจอัลตราซาวน์ประเมินมดลูกและรังไข่  การวิเคราะห์คุณภาพของอสุจิ 

จากผลการประเมินทั้งหมด แพทย์จะพิจารณาว่า IUI เป็นทางเลือกที่เหมาะสมหรือไม่ ในกรณีที่มีภาวะมีบุตรยากระดับรุนแรง เช่น ท่อนำไข่ทั้งสองข้างอุดตัน หรือคุณภาพอสุจิต่ำกว่าเกณฑ์มาก อาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่น เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)

นอกจากนี้การนัดพบครั้งแรกนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่คุณจะได้สอบถามข้อสงสัยและปรึกษาทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำ IUI ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการรักษา ค่าใช้จ่าย หรือรายละเอียดอื่นๆ ที่คุณกังวลใจ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่ากระบวนการนี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่ การเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจและมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าคุณจะพบอุปสรรคหรือข้อจำกัดใดระหว่างการรักษา แพทย์จะพร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณอย่างดีที่สุดในทุกขั้นตอน

2. การกระตุ้นรังไข่

เมื่อไหร่: วันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน

ใช้เวลานานแค่ไหน: 10-12 วัน

เมื่อเริ่มกระบวนการ IUI แพทย์จะประเมินว่า คุณควรได้รับยากระตุ้นรังไข่หรือไม่ โดยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการตกไข่ของคุณ หากร่างกายสามารถตกไข่ได้เองตามธรรมชาติ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่หากต้องการเพิ่มโอกาสให้มีไข่โตในรอบการรักษานั้น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยากระตุ้นไข่ ซึ่งอาจเป็นแบบรับประทาน แบบฉีด หรือทั้งสองแบบร่วมกัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และการตอบสนองของร่างกาย

ระหว่างการกระตุ้นไข่ แพทย์จะนัดตรวจอัลตราซาวน์อย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามการตอบสนองของรังไข่ พัฒนาการของฟองไข่ และปรับยาให้เหมาะสมหากจำเป็น ในช่วงนี้ แพทย์อาจแนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์หรือการหลั่งอสุจิประมาณา 2-3 วันก่อนวันทำ IUI เพื่อเตรียมความพร้อมของน้ำเชื้อ

เมื่อฟองไข่โตจนมีขนาดประมาณ 18-20 มิลลิเมตร และเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาอย่างน้อย 7 มิลลิเมตร แพทย์จะฉีดยาให้ไข่ตก เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตกไข่ จากนั้นจะทำนัดเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการทำ IUI หลังจากฉีดยาราว 36 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปฏิสนธิ

3. กระบวนการ IUI

จากการฉีดยาให้ไข่ตก 36-42 ชั่วโมง จะเริ่มกระบวนการทำ IUI ในขั้นตอนนี้ ฝ่ายชายเก็บน้ำอสุจิ โดยการช่วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีที่แนะนำ เพื่อลดโอกาสการปนเปื้อนของแบคทีเรีย น้ำอสุจิที่เก็บได้ จะถูกส่งไปที่ห้องปฏิบัติการทันที และพักไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้น้ำอสุจิละลายตัวให้เหลว จากนั้นจะถูกนำไปปั่นล้างเพื่อขจัดเศษอสุจิที่ไม่เคลื่อนที่ และสารอื่นๆ ในน้ำอสุจิที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อมดลูก คงเหลือเฉพาะอสุจิที่มีสุขภาพดีที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ

หลังจากเตรียมอสุจิเสร็จแล้ว แพทย์จะเริ่มกระบวนการทำ IUI โดยใช้เครื่องมือเปิดช่องคลอด เพื่อให้มองเห็นปากมดลูก แล้วจึงค่อยๆ สอดสายสวนขนาดเล็กเข้าสู่โพรงมดลูก และฉีดอสุจิที่เตรียมไว้เข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อช่วยให้อสุจิสามารถว่ายเข้าไปในท่อนำไข่และปฏิสนธิกับไข่ได้อย่างสะดวก ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 5–10 นาที  ไม่ต้องใช้ยาสลบ และแทบไม่มีความเจ็บปวด หลังจากนั้นแพทย์อาจให้คุณนอนพักประมาณ 30 นาที แล้วจึงเดินทางกลับบ้านได้

4. ทดสอบการตั้งครรภ์

เมื่อไหร่: 14 วันหลังกระบวนการ IUI

ใช้เวลานานแค่ไหน: 2-3 นาที

ประมาณ 14 วันหลังจากทำ IUI คุณสามารถตรวจการตั้งครรภ์ที่บ้านด้วยชุดทดสอบ หรือเข้ารับการตรวจที่คลินิก หากไม่ประสบความสำเร็จในการทำ IUI ในครั้งแรก อย่าเพิ่งหมดหวัง คุณสามารถทำ IUI ซ้ำได้ 3-4 รอบ หรือในบางกรณีอาจถึง 6 รอบ ขึ้นอยู่กับอายุและปัญหาของแต่ละบุคคล หากผ่านไป 4-6 รอบแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ แพทย์อาจแนะนำให้พิจารณาทางเลือกในการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ หลังจากทำ IUI แล้ว คุณสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติรวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ด้วย

อาการหลังทํา IUI เป็นอย่างไร

หลังการทำ IUI ผู้หญิงอาจมีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ อาการปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป กับ อาการที่อาจเป็นสัญญาณเตือนให้พบแพทย์ ดังนี้

อาการปกติที่พบได้หลังทำ IUI

  1. ปวดหน่วงท้องน้อย เกิดจากการตกไข่ หรือการใส่สายสวนในโพรงมดลูก อาการมักไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 1-3 วัน
  2. มีมูกเลือดหรือตกขาวปนเลือดเล็กน้อย จากการระคายเคืองเยื่อบุโพรงมดลูกหรือปากมดลูกระหว่างทำหัตถการ
  3. แน่นท้อง คัดตึงเต้านม เป็นผลมาจากฮอร์โมนที่ใช้กระตุ้นไข่ เช่น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
  4. อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย ผลข้างเคียงจากยากระตุ้นไข่หรือยาฮอร์โมนที่ใช้หลังทำ IUI
  5. ไม่มีอาการใดเลย ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน และไม่ได้หมายความว่าการทำ IUI ไม่ได้ผล เพราะอาการหลังทำแต่ละคนอาจแตกต่างกัน

ในกรณีที่ IUI สําเร็จ อาการ จะเหมือนกับการตั้งครรภ์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ เช่น ประจำเดือนไม่มา อ่อนเพลีย ปวดหน่วงท้องน้อย หรือคัดตึงเต้านม เป็นต้น โดยระยะที่แนะนำให้ตรวจครรภ์จะอยู่ประมาณ 14 วันหลังทำ IUI เพื่อให้ระดับฮอร์โมน hCG สูงพอสำหรับการตรวจ หากตรวจเร็วเกินไป อาจให้ผลลวง (false negative)

อาการที่ควรระวัง/ควรพบแพทย์

  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • มีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ
  • มีไข้ หนาวสั่น ตกขาวมีกลิ่นผิดปกติ
  • เวียนหัว คลื่นไส้มาก อาเจียนรุนแรง

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบติดต่อแพทย์เพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมทันที

อาการหลังทำ IUI ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่ควรเฝ้าสังเกตตนเองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก หากมีข้อกังวลควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยที่สุด

IUI ราคา ค่าใช้จ่ายเท่าไร

ค่าใช้จ่ายในการทำ IUI จะขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่เลือกและปัจจัยเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป IUI ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อรอบการรักษา ซึ่งประกอบด้วย ค่ายากระตุ้นไข่และยาฉีดให้ไข่ตก ซึ่งแต่ละคนจะตอบสนองต่อยาและอาจใช้ปริมาณยาแตกต่างกัน ค่าตรวจอัลตราซาวด์เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของฟองไข่ ค่าตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน และค่าหัตถการและค่าบริการของสถานพยาบาล แม้ราคาจะมีความแตกต่าง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น IVF หรือ ICSI แล้ว การทำ IUI ยังถือว่าเป็นทางเลือกที่ประหยัดและเข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับผู้ที่ภาวะมีบุตรยากไม่ซับซ้อน

ทํา IUI เลือกเพศได้ไหม

การทำ IUI จะไม่สามารถเลือกเพศลูกได้ โอกาสที่ทารกจะเป็นเพศชายหรือหญิงยังคงเป็นไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับการมีเพศสัมพันธ์ตามปกติ 

โดยขั้นตอนการทำ IUI เป็นเพียงการนำน้ำเชื้อของฝ่ายชายมาผ่านกระบวนการปั่นคัดเชื้อ เพื่อคัดเอาเฉพาะตัวอสุจิที่แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี แยกออกจากตัวอสุจิที่ตายหรือเคลื่อนไหวผิดปกติ ในขั้นตอนนี้ไม่สามารถแยกอสุจิที่มีโครโมโซม X (เพศหญิง) ออกจาก Y (เพศชาย) ได้ เนื่องจากอสุจิทั้งสองชนิดมีลักษณะภายนอกและพฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ใกล้เคียงกันมาก จึงไม่สามารถแยกด้วยวิธีการทั่วไปในห้องปฏิบัติการได้ 

เมื่อนำอสุจิที่คัดแล้วฉีดเข้าสู่โพรงมดลูก ก็ยังคงมีอสุจิทั้ง X และ Y ปะปนกันตามธรรมชาติ ดังนั้นผลลัพธ์จึงขึ้นอยู่กับว่าอสุจิตัวใดสามารถว่ายไปถึงไข่และเกิดการปฏิสนธิได้ก่อน  ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ในขั้นตอนของ IUI

IUI กี่วันรู้ผล

คำถามยอดฮิตของผู้ที่เพิ่งทำ IUI คือ ทํา IUI กี่วันตรวจได้ หรือ ทํา IUI ตรวจตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่ ซึ่งคำตอบคือ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 14 วัน หลังจากวันที่ทำ IUI แล้ว หากมีการปฏิสนธิและมีการฝังตัวของตัวอ่อน ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมน hCG ในช่วง 14 วันนี้ การตรวจครรภ์ที่เหมาะสมจึงควรทำหลังจากนั้น เพื่อให้ได้ผลแม่นยำที่สุด เพราะหากตรวจเร็วเกินไป อาจเกิดผลลวง เนื่องจากระดับฮอร์โมนยังไม่สูงพอ

สามารถเลือกตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบครรภ์ (ที่ตรวจได้เองที่บ้าน) หรือ เข้ารับการตรวจเลือดที่คลินิก ซึ่งให้ความแม่นยำสูงกว่า

หากพบว่าตั้งครรภ์ แพทย์จะนัดเพื่อตรวจเลือดยืนยัน เพื่อวัดระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ เพื่อประเมินพัฒนาการในระยะแรกเริ่ม

ทํา IUI กี่ครั้งติด ต้องลองกี่รอบถึงจะมีโอกาสสำเร็จ

สำหรับคำถามที่พบบ่อยว่า “IUI กี่ครั้งติด” นั้น คำตอบคือ โดยทั่วไปสามารถทำ IUI ได้ประมาณ 3–4 รอบ หรือบางรายอาจทำได้ถึง 6 รอบ ขึ้นอยู่กับ อายุของฝ่ายหญิง คุณภาพอสุจิ การตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่ และสุขภาพโดยรวมของทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม หากพยายามทำ IUI มาแล้ว 4–6 รอบแล้วยังไม่ติด แพทย์อาจแนะนำให้พิจารณาทางเลือกการรักษาที่มีอััตราความสำเร็จที่สูงกว่า เช่น การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF หรือ ICSI

ทำ IUI ที่ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ดีอย่างไร

หากคุณกำลังหาคำตอบว่า ทำ IUI ที่ไหนดี สามารถปรึกษาขอแนะนำเกี่ยวกับบริการทำ IUI ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. หรือปรึกษาภาวะมีบุตรยาก เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ และช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้ได้มากที่สุด โดยซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานระดับสากล เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ เพื่อความมั่นใจในทุกขั้นตอน โดยข้อดีของการทำ IUI ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มีดังนี้

  1. มาตรฐานระดับโลกและเทคโนโลยีขั้นสูง ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. เป็นคลินิกที่ดำเนินงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศออสเตรเลีย ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับนานาชาติในการรักษาผู้มีบุตรยาก 
  2. ห้องปฏิบัติการคุณภาพสูง ถึงแม้การทำ IUI จะดูเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อนเท่าเด็กหลอดแก้ว แต่ “การเตรียมน้ำเชื้ออสุจิ” คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ห้องแล็บที่มีคุณภาพสามารถคัดเลือกตัวอสุจิที่แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี และมีความสามารถในการปฏิสนธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์
  3. ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่ชำนาญการ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ของเรามีประสบการณ์สูงในการวิเคราะห์ภาวะมีบุตรยาก ทำให้สามารถวินิจฉัยและแนะนำได้อย่างแม่นยำว่า IUI เหมาะสมกับเคสของคุณจริงๆ หรือไม่ ขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการยังมีความชำนาญในการจัดการกับเซลล์สืบพันธุ์อย่างละเอียด
  4. การดูแลแบบองค์รวม (Comprehensive Care) หากทำ IUI 3-4 รอบแล้วยังไม่สำเร็จ แพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาต่อเนื่องตามผลลัพธ์ในแต่ละรอบ โดยที่นี่ให้บริการตั้งแต่การทำ IUI ไปจนถึงเทคนิคขั้นสูงกว่าอย่าง IVF/ICSI โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องย้ายคลินิก พร้อมทั้งมีบริการให้คำปรึกษาที่ละเอียดและชัดเจน
  5. ความเป็นส่วนตัวและบริการพรีเมียม คลินิกถูกออกแบบมาอย่างดี สะอาด สะดวกสบาย และให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่ให้การดูแลใส่ใจทุกรายละเอียด ช่วยลดความกังวลและความเครียดของผู้ที่เข้ามารับการรักษาได้อย่างดี

การทำ IUI (Intrauterine Insemination) คือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ขั้นต้นที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ด้วยการฉีดน้ำเชื้ออสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้วเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง เหมาะสำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากไม่ซับซ้อน แม้จะมีข้อดีคือค่าใช้จ่ายย่อมเยาและขั้นตอนไม่ซับซ้อนใกล้เคียงธรรมชาติ แต่ก็มีข้อจำกัดคือ มีอัตราความสำเร็จต่อรอบไม่สูงนัก (10-15%) และไม่สามารถเลือกเพศบุตรเพื่อป้องกันโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านโครโมโซมเพศได้ โดยทั่วไปแพทย์มักแนะนำให้ลองทำ IUI ประมาณ 3-4 รอบ ซึ่งต้องรอ 14 วันหลังทำจึงจะทราบผล หากยังไม่สำเร็จอาจพิจารณาแนวทางการรักษาขั้นสูงอย่างเด็กหลอดแก้วต่อไป

หากคุณสนใจ ทำ IUI ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินภาวะมีบุตรยากได้ทันที ทีมงานพร้อมให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนทั้งเรื่องแนวทางการรักษา ค่าใช้จ่าย และการเตรียมตัว เพื่อให้คุณมั่นใจและตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการแช่แข็งตัวอ่อนของเรา คลิกที่นี่

𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫𝐢𝐨𝐫 𝐀.𝐑.𝐓. 𝐋𝐈𝐕𝐄 : 🅔🅟.30 ❝ IUI ก็ท้องได้ ไม่ใช่เรื่องยาก ❞

References

LIVE หมอนิ พญ. นิศารัตน์ สุนทราภา

พญ. นิศารัตน์ สุนทราภา
สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และภาวะการมีบุตรยาก

ข่าวสารและบทความอื่นๆ

CEO’s Guide to Family Planning : EP.2 The Principles: “The Leader’s Playbook for Family Planning”

ในโลกธุรกิจ เราวางแผนล่วงหน้าอย่างรัดกุม แล้วทำไมการมีลูกจึงไม่มีแผนบ้าง? ใน EP.2 นี้ คุณเจมส์ชวนเขียน Playbook เพื่อวางแผนครอบครัวอย่างเป็นระบบ

ถามหมอ 💬 กับหมอนิ : ฝ่ายหญิงทำหมันแล้ว อยากจะมีลูกอีกได้หรือไม่

ทำหมันแล้ว…แต่เปลี่ยนใจอยากมีลูกอีก ยังมีโอกาสไหม? มาฟังคุณหมอนิตอบข้อสงสัยนี้กันค่ะ

CEO’s Guide to Family Planning : EP. 1 The Philosophy: “Beyond the Boardroom: Your Legacy is Your Greatest Asset”

เมื่อร่างกายและเวลาดำเนินไปไม่หยุด คุณเจมส์ มาร์แชล กรรมการผู้จัดการของ Superior A.R.T. ได้ถ่ายทอดมุมมองเรื่องการวางแผนครอบครัวผ่านสายตาของผู้นำอย่างน่าสนใจ