ข่าวสารและบทความ

วิธีการเลือกเพศลูกมีกี่ประเภท? ทำความรู้จักวิธีการเลือกเพศลูกที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

วิธีการเลือกเพศลูกมีกี่ประเภท? ทำความรู้จักวิธีการเลือกเพศลูกที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

ในปัจจุบัน การเลือกเพศลูก (sex selection) นั้นถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ด้วยเหตุผลหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เหตุผลทางการแพทย์ เพื่อเลี่ยงและป้องกันการส่งต่อโรคทางพันธุกรรมที่มีสาเหตุมาจากโครโมโซมเพศ (sex-linked diseases) หรือเหตุผลอื่นๆ เช่น ต้องการที่รักษาสมดุลจำนวนบุตรชาย-หญิงในครอบครัว หรือต้องการมีบุตรคนใหม่ที่เป็นเพศเดียวกับที่บุตรที่สูญเสียไป ตลอดจนค่านิยมทางวัฒนธรรมอื่นๆ การเลือกเพศลูก (sex selection) มีวิธีใดบ้าง มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ อย่างไร ? ในบทความนี้ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ได้รวบรวมและสรุปข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกเพศลูก จะมีวิธีใดบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันในบทความนี้กันเลยค่ะ

  1. การเลือกเพศลูกด้วยวิธีธรรมชาติ (Natural Methods)
  2. การเลือกเพศลูกด้วยวิธีการคัดเลือกสเปิร์ม (Sperm Sorting Methods)
  3. การเลือกเพศลูกด้วยวิธีการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมก่อนการฝังตัว (Preimplantation Genetic Testing)

1. การเลือกเพศลูกด้วยวิธีธรรมชาติ (Natural Sex Selection Methods)

สำหรับวิธีแรก การเลือกเพศลูกด้วยวิธีทางธรรมชาตินั้น มีหลากหลายวิธีที่ได้รับความนิยม เช่น วิธี Shettles, วิธี Whelan, วิธีการสังเกตมูกปากมดลูก, วิธีการปรับโภชนาการก่อนการตั้งครรภ์, และตลอดจนอุปกรณ์ในการช่วยเลือกเพศลูกต่างๆ อย่างเช่น GenSelect และ Smart Stork

วิธีการดังกล่าว ใช้หลักการของช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับอสุจิ X หรือ Y, การปรับภาวะกรดด่างในช่องคลอด, การปรับโภชนาการ, ตลอดจนการรับประทานอาหารเสริมต่างๆ

  • วิธีการกำหนดเวลา เป็นการกำหนดเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ที่สัมพันธ์กับช่วงเวลาการตกไข่ วิธีนี้ฝ่ายหญิงจะต้องคอยติดตามรอบการตกไข่ของตัวเอง ได้รับคำแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ในท่าที่อาจมีผลต่อเพศลูกอีกด้วย อย่างไรก็ดี จากผลการศึกษาและวิจัยในปัจจุบัน พบว่า ผลลัพธ์ของวิธีดังกล่าว ยังไม่ชัดเจน และมีแนวโน้มที่จะไม่เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ลูกตามเพศที่ต้องการ  
  • วิธีการปรับโภชนาการ วิธีนี้ คุณแม่และอาจรวมถึงคุณพ่อ จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค และปรับโภชนาการในช่วงก่อนการตั้งครรภ์ โดยเลือกรับประทานอาหารที่จะส่งผลต่อการมีบุตรเพศใดเพศหนึ่งเป็นพิเศษ วิธีนี้มักจะใช้ร่วมกับการกำหนดเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ มีหลายงานวิจัยสรุปว่าการปรับเปลี่ยนโภชนาการของแม่ร่วมกับการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรเพศหญิงได้ แต่ก็มีหลายงานวิจัยที่สรุปผลว่าไม่ช่วย นอกจากนั้นก็ยังไม่มีข้อแนะนำอย่างเป็นทางการ ว่าอาหารและอาหารเสริมชนิดใดบ้างที่สามารถช่วยได้ชัดเจน
  • วิธีการทานอาหารเสริมบางชนิด เช่น GenSelect ใช้หลักโภชนเภสัช (nutriceuticals) ที่ออกแบบสูตรอาหารเสริมขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้ลูกตามเพศที่ต้องการ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ยังต้องทำร่วมกับแนวทางปฏิบัติในการรับประทานอาหาร, การเลือกจังหวะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ ตลอดจนการปรับสภาวะในช่องคลอด

2. การเลือกเพศลูกด้วยวิธีการคัดเลือกเพศอสุจิ (Sperm Sorting Methods)

การคัดเลือกอสุจินั้น มีวิธีการต่างๆ ดังนี้ วิธี Gradient (วิธีของ Erickson) , วิธี MicroSort, และวิธีอื่นๆ

  • การคัดเลือกเพศอสุจิด้วยวิธี Gradient  วิธีนี้ ใช้หลักการ ที่อสุจิเพศหญิง (X) และเพศชาย (Y) มีมวลที่แตกต่างกัน เมื่อนำมาเตรียมด้วยน้ำยาเตรียมอสุจิที่มีความเข้มข้นต่างกัน อสุจิเพศหญิงและชาย จะถูกแยกออกจากกัน

    โดยวิธีของ Ericsson มีผลการศึกษาพบว่าความแม่นยำในการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์บุตรเพศหญิงประมาณ 70 ถึง 80% และ 50% ถึง 75% ในกรณีของบุตรเพศชาย
  • การคัดเลือกเพศอสุจิด้วยวิธีอื่นๆ ยังมีเทคนิคการคัดแยกอสุจิอีกหลายวิธี เช่น เทคนิค Swim-Up ซึ่งจะใช้วิธีคัดแยกอสุจิ X ออกจากอสุจิ Y จากความเร็วในการเคลื่อนตัวที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี วิธีการเหล่านี้ยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนในเชิงวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน
  • การคัดเลือกเพศอสุจิด้วยวิธี MicroSort เป็นเทคนิคในการคัดแยกอสุจิ ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า Flow Cytometry ในกระบวนการนี้อสุจิจะถูกคัดแยกด้วยการย้อมสีเรืองแสง เนื่องจากอสุจิเพศหญิง (X) มีขนาดใหญ่กว่า (มีปริมาณ DNA มากกว่า) จึงสามารถดูดซับสีย้อมได้มากกว่าอสุจิเพศชาย (Y) นอกจากนี้ อสุจิ X เรืองแสงได้มากกว่า อสุจิ Y จึง ช่วยในการคัดแยกออกจากกันได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดีกระบวนการนี้ยังไม่สามารถคัดแยกตัวอสุจิหญิงและชาย ได้อย่างสมบูรณ์ 100% ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการทดลองใช้เทคโนโลยีนี้แล้ว และรายงานว่ามีอัตราความสำเร็จสูงถึง 90% แต่ในภายหลัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้สั่งห้ามไม่ให้มีการนำมาใช้กับมนุษย์ และห้องปฏิบัติการจึงถูกย้ายไปประเทศอื่น

แม้ว่าวิธีการเลือกเพศลูกตามธรรมชาตินั้น จะมีค่าใช้จ่ายน้อย และอาจเคยสร้างปาฏิหาริย์ให้กับคู่รักหลายครอบครัว  แต่ก็มีผลไม่แน่นอน และไม่สามารถบอกอัตราความสำเร็จเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้

3. การเลือกเพศลูกด้วยวิธีการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมก่อนการฝังตัว (Preimplantation Genetic Testing, PGT) ร่วมด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)

วิธีการเลือกเพศลูกที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และปลอดภัยมากที่สุดในบรรดาเทคนิคทั้งหมด คำตอบคือ ‘PGT (Preimplantation Genetic Testing)’ หรือ ‘การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมก่อนการฝังตัว’ โดยทำควบคู่ไปกับการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF/ICSI นั่นเอง

วิธีการตรวจ PGT คือ เทคนิคในการตรวจโรคพันธุกรรม หรือโครโมโซมของตัวอ่อน ในครอบครัวที่มีประวัติโรคพันธุกรรม ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF/ICSI เมื่อไข่ปฏิสนธิกับอสุจิและได้รับการเพาะเลี้ยงจนเติบโตเป็นตัวอ่อนในระยะ ‘บลาสโตซิสต์’ แล้ว นักวิทยาศาสตร์จะตรวจคัดกรองโครโมโซม (PGT) โดยการนำเอาเซลล์บางส่วนจากตัวอ่อนไปตรวจด้วยวิธี Next Generation Sequencing (NGS)

เทคนิคการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว (PGT) จะช่วยให้สามารถตรวจวิเคราะห์ตัวอ่อนในระดับโครโมโซมได้อย่างแม่นยำ ซึ่งรวมไปถึงโครโมโซมเพศ ทำให้สามารถระบุเพศของตัวอ่อนได้ เป็นเทคนิคที่มีความน่าเชื่อถือและมีความแม่นยำสูง ช่วยคัดเลือกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติและปราศจากโรคทางพันธุกรรม เพื่อนำไปฝังตัวในโพรงมดลูกต่อไป ด้วยเทคนิคนี้ จึงเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดการแท้ง และภาวะบกพร่องต่างๆ ของทารกในครรภ์ที่เกิดจากโครโมโซมผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เทคนิคการทำ PGT ร่วมกับกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI จะมีค่าใช้จ่ายและขั้นตอนที่มากกว่า จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด ในแต่ละครอบครัว

สรุป

วิธีการเลือกเพศลูก (sex selection) ตามธรรมชาตินั้นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและประหยัดที่สุด แต่อาจเหมาะสำหรับคู่ที่เพียงแค่เพิ่มโอกาส ได้ลูกสาวหรือลูกชายตามที่หวังไว้ แต่หากคุณมีเหตุผลและความจำเป็นในการเลือกเพศของบุตร (เช่น เพื่อป้องกันการส่งต่อโรคทางพันธุกรรมที่เชื่อมโยงกับเพศ) วิธีที่มีอัตราความสำเร็จไม่แน่นอนและคาดเดาไม่ได้อย่างวิธีธรรมชาติจึงไม่เหมาะสมกับคุณ และควรใช้วิธีที่แม่นยำมากที่สุด คือการตรวจคัดกรองโครโมโซมก่อนการฝังตัว PGT ร่วมกับการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ ICSI

นอกจากนี้ หากคุณได้พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติมานานมากกว่า 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ เป็นสัญญาณที่สำคัญว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องมีบุตรยาก และควรมองหาวิธีการอื่น เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI ซึ่งเป็นหนึ่งในการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมว่าการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF/ICSI คืออะไร? มีขั้นตอนใดบ้างนั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่


ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 ให้บริการช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproduction Technology – A.R.T.)  ครอบคลุมการรักษาภาวะมีบุตรยาก อาทิ เด็กหลอดแก้วIVFICSI, IUI, Egg Freezing, ฝากไข่เก็บไข่แช่แข็งไข่ และมีประสบการณ์ในการตรวจคัดกรองพันธุกรรมตัวอ่อน, PGT, ตรวจโครโมโซมตัวอ่อน, NGS, และบริการอื่นๆเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์ พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับ ลูกแฝด และการเลือกเพศลูก ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. เพียบพร้อมด้วยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พยาบาล ที่ปรึกษาและบุคลากรที่ชำนาญการ พร้อมดูแลใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอน รวมถึงให้ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวสารและบทความอื่นๆ

สเปิร์มน้อย สเปิร์มไม่แข็งแรง แก้ไขได้ ถ้ารู้ก่อน

สเปิร์มน้อย สเปิร์มไม่แข็งแรง แก้ไขได้ ถ้ารู้ก่อน ด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพคู่รัก Couple Checkup ในราคาพิเศษเพียง 4,999 บาท

Lab และ Technology ปัจจัยสำคัญที่ห้ามมองข้ามในการเลือกทำ ICSI

เนื่องจากการทำ ICSI เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน ห้องปฏิบัติการ (Lab) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

21 มี.ค. วันดาวน์ซินโดรมโลก

21 มี.ค. ของทุกปี เป็น “วันดาวน์ซินโดรมโลก” (World Down Syndrome Day) เพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มอาการดาวน์