“𝗘𝗺𝗯𝗿𝘆𝗼 𝗚𝗹𝘂𝗲 เหมาะกับใคร แล้วช่วยให้ท้องได้อย่างไร”
Embryo Glue เป็นหนึ่งในกระแสที่ถูกพูดถึงกันในกลุ่มของคนไข้ที่มีบุตรยาก ว่าเป็นเทคนิคการรักษาที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น วันนี้คุณหมอนิ จึงมาแชร์เรื่องนี้ให้ฟังว่า Embryo Glue คืออะไร? ช่วยในเรื่องของการฝังตัวอ่อนอย่างไร? ช่วยได้จริงหรือไม่? และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง?
เริ่มจากการปูพื้นคร่าวๆ ก่อนว่า หลังจากที่ใส่ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์เข้าไปในโพรงมดลูก ตัวอ่อนจะค่อยๆ ฟักออกจากเปลือก (Hatching) แล้วก็เคลื่อนที่ไปมาในโพรงมดลูกจนเจอตำแหน่งที่ดีที่สุดของโพรงมดลูก ซึ่งบริเวณนี้ จะมีการเรียงตัวของเยื่อบุ และมีสารที่ช่วยดึงดูดให้ตัวอ่อนมีการแทรกตัวลงไปในชั้นเยื่อบุโพรงมดลูกได้ดีที่สุด
เวลาที่หมอย้ายตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูก จะใช้สายย้ายตัวอ่อนที่มีลักษณะเป็นสายนุ่มๆ ยาวๆ คล้ายหลอดนมยาวๆที่มีปลายนุ่มๆ และเมื่อดูดตัวอ่อนเข้าไปในสาย นอกจากตัวอ่อนแล้ว ยังมีน้ำยาที่ใช้เลี้ยงตัวอ่อนถูกดูดเข้าไปพร้อมกันด้วย ซึ่งในนั้นจะมีสารประกอบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น กรดอะมิโน น้ำตาล เพื่อเป็นอาหารให้กับตัวอ่อน และเพื่อปรับความเป็นกรดด่างให้เข้ากับโพรงมดลูกหรือใกล้เคียงกับในโพรงมดลูกมากที่สุด
มีการศึกษาที่เอาน้ำที่อยู่ในโพรงมดลูก ในวันที่ตัวอ่อนฝังตัวไปตรวจดูว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ก็พบว่ามีสารอยู่ตัวหนึ่ง คือ Hyaluronic Acid หรือ Hyaluronan เป็นสารที่พบมากในน้ำที่อยู่ในโพรงมดลูก ในวันที่ตัวอ่อนเหมาะจะฝังตัวมากที่สุด เจ้าสาร Hyaluronan นี้ ช่วยให้ตัวอ่อนยึดติดกับโพรงมดลูกได้ดี แต่ในน้ำยาที่ใช้เลี้ยงตัวอ่อนทั่วไปมีปริมาณของสารนี้น้อยกว่าในโพรงมดลูก จึงเป็นที่มาของ Embryo Glue ซึ่งก็คือน้ำยาสำหรับย้ายตัวอ่อน ที่มีการเพิ่มปริมาณ Hyaluronan เข้าไปใน น้ำยาเลี้ยงตัวอ่อนปกติ ให้มีระดับใกล้เคียงกับน้ำในโพรงมดลูกในวันที่ตัวอ่อนฝังตัวมากที่สุด และนอกจากนี้ยังมีโปรตีน Human Albumin และวิตามิน ที่เป็นเหมือนอาหารของตัวอ่อน รวมถึงสาร Heparin ที่ช่วยต้านการอักเสบ ซึ่งอาจจะช่วยทำให้การฝังตัวของตัวอ่อนดีขึ้น
Embryo Glue ใช้อย่างไร?
Embryo Glue จะเป็นหลอดเล็กๆ ขนาดประมาณ 1.5 ml ซึ่งก่อนจะใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก เราจะวางตัวอ่อนไว้ใน Embryo Glue ประมาณ 30 นาที เพื่อให้เคลือบตัวอ่อน และตอนที่ใส่ตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูก เราจะดูดน้ำยาของ Embryo Glue เข้าไปด้วยส่วนหนึ่ง
Embryo Glue มีประโยชน์จริงหรือไม่?
จากหลายๆ งานวิจัยพบว่า การใช้ Embryo Glue ในคนไข้ทุกคนที่ได้รับการย้ายตัวอ่อน ไม่ได้มีประโยชน์ชัดเจน ว่าสามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ แต่จะเห็นประโยชน์ในคนไข้เฉพาะกลุ่ม คือกลุ่มคนไข้ที่เคยใส่ตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีหลายครั้ง แต่ไม่เกิดตั้งครรภ์ (Implantation failure) Embryo Glue อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นประมาณ 10%
ข้อเสียของ Embryo Glue คืออะไร?
เนื่องจาก Embryo Glue ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ ข้อมูลการติดตามผลระยะยาวยังมีไม่มาก เช่น เด็กที่เกิดจากการย้ายตัวอ่อนร่วมกับใช้ Embryo Glue มีความผิดปกติในตอนโตหรือไม่ แต่จากข้อมูลตั้งแต่เริ่มมีการใช้ Embryo Glue มากว่า 10 ปีทั่วโลก พบว่า การใช้ Embryo Glue ร่วมกับการย้ายตัวอ่อน ไม่เพิ่มอัตราการเกิดเด็กผิดปกติระหว่างที่อยู่ในครรภ์ อัตราการแท้งและท้องนอกมดลูก ไม่ต่างกับการใช้น้ำยาเลี้ยงตัวอ่อนปกติที่ใช้ทั่วไป
โดยส่วนตัวคุณหมอมองว่า คนไข้ย้ายตัวอ่อนแล้วจะสำเร็จหรือไม่ มีปัจจัยที่สำคัญคือ คุณภาพของตัวอ่อน คุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูก และระดับฮอร์โมนที่ประคองการตั้งครรภ์ ถ้าตัวอ่อนคุณภาพดี ตรวจโครโมโซมแล้วปกติ คุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกดี ไม่ว่าจะเป็น ความหนา และการเรียงตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกดี ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด และเป็นรูปธรรมมากกว่าการใช้ Embryo Glue
อย่างไรก็ตาม จากความเห็นส่วนตัว Embryo Glue อาจจะมีประโยชน์อีกแง่หนึ่ง เนื่องจากลักษณะของน้ำยาที่ค่อนข้างหนืดกว่าน้ำยาที่ใช้ย้ายตัวอ่อนทั่วไป ซึ่งความหนืดนี้อาจจะช่วยให้ตัวอ่อนหลังย้ายเข้าโพรงมดลูกอยู่ในตำแหน่งที่คุณหมอตั้งใจวางตัวอ่อนไว้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมกับการย้ายตัวอ่อนมากที่สุด อาจจะช่วยลดการฝังตัวในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ส่วนล่างของโพรงมดลูก
ซึ่งคุณหมอมองว่าการใช้ Embryo Glue ไม่ได้มีข้อเสีย โดยอาจมีประโยชน์สำหรับคนไข้บางกลุ่ม แต่ก็ไม่ได้แนะนำให้ใช้กับทุกคน หากใครมีคำถาม หรือมีข้อสงสัย เกี่ยวกับ Embryo Glue หรือการทำเด็กหลอดแก้ว IVF ก็สามารถทำนัดเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้เลยค่ะ