ข่าวสารและบทความ

“แช่แข็งไข่” ทางเลือกเพื่ออนาคตของผู้หญิงยุคใหม่ เจาะลึกขั้นตอน ราคา ค่าใช้จ่าย และอายุที่เหมาะสม

ในยุคที่ผู้หญิงหลายคนเลือกแต่งงานหรือสร้างครอบครัวเมื่ออายุมากขึ้น ข้อดีคือได้เริ่มต้นชีวิตคู่ในวันที่มีความมั่นคงและมีความพร้อมมากที่สุด แต่นั่นก็อาจต้องเผชิญความท้าทายในเรื่องภาวะมีบุตรยาก หรือมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกน้อยที่อาจเพิ่มขึ้นตามวัย

“การแช่แข็งไข่” (Egg Freezing) จึงกลายเป็นทางเลือกอุ่นใจในการวางแผนครอบครัวที่ตอบโจทย์อย่างลงตัว ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเก็บเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์ไว้ในช่วงวัยที่ดีที่สุด เพื่อนำมาใช้ในวันที่ต้องการมีบุตรอย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

แต่การแช่แข็งไข่คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? วันนี้ Superior A.R.T. จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ เพื่อให้คุณวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นใจที่สุด

แช่แข็งไข่ คือ อะไร

การแช่แข็งไข่ (Egg Freezing) คือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บรักษาเซลล์ไข่ (Oocyte) ของผู้หญิงไว้ในช่วงเวลาที่ไข่ยังสมบูรณ์ แข็งแรง โดยการเก็บไข่ออกมา แล้วแช่แข็งไข่ไว้ในอุณหภูมิเยือกแข็ง เพื่อหยุดหยุดการเสื่อมสภาพของเซลล์ไข่ที่เกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่อถึงเวลาที่ผู้หญิงพร้อมจะมีบุตร เซลล์ไข่แช่แข็งที่ถูกเก็บรักษาไว้จะถูกนำมาละลาย และเข้าสู่กระบวนการปฏิสนธินอกร่างกายกับอสุจิของคู่สมรสในห้องปฏิบัติการ ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF หรือ ICSI) จนกลายเป็นตัวอ่อน ก่อนที่จะถูกย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป

แช่แข็งไข่ เพื่ออะไร

การแช่แข็งไข่เป็นการการวางแผนอนาคตของผู้หญิงในระยะยาว โดยสามารถแบ่งเหตุผลหลักๆ ของการแช่แข็งไข่ออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ดังนี้:

1. เหตุผลทางการแพทย์

ในกรณีที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่อาจส่งผลกระทบต่อรังไข่หรือความสามารถในการมีลูกในอนาคต เช่น:

  • การรักษามะเร็ง: การทำเคมีบำบัด (คีโม) หรือการฉายรังสีบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจทำลายรังไข่และเซลล์ไข่ ส่งผลให้มีบุตรยาก เนื่องจากรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร 
  • การผ่าตัดรังไข่: เช่น การผ่าตัดเนื้องอกที่รังไข่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งอาจทำให้สูญเสียเนื้อรังไข่ที่ดี
  • โรคทางพันธุกรรมบางชนิด: ผู้ที่มีภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้รังไข่หยุดทำงานเร็ว หรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติ

2. เหตุผลทางสังคมและส่วนตัว

เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการวางแผนครอบครัว เช่น: 

  • ยังไม่เจอคนที่ใช่: แม้จะยังไม่เจอคนที่จะสร้างครอบครัวด้วย แต่ยังอยากเก็บโอกาสในการมีลูกไว้ในอนาคต
  • ทุ่มเทกับงานหรือการศึกษา: บางคนอยู่ในช่วงการสร้างตัว สร้างความมั่นคงในอาชีพ หรือกำลังเรียนต่อในระดับสูง จึงยังไม่พร้อมมีลูกในตอนนี้
  • ต้องการรักษาคุณภาพไข่ไว้ในช่วงที่ดีที่สุด: ผู้หญิงเราเกิดมาพร้อมกับไข่จำนวนจำกัด คุณภาพและปริมาณของไข่จะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 35 ปี การแช่แข็งไข่ที่มีคุณภาพดีในช่วงอายุ 20 ปลายๆ ถึง 30 ต้นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จในอนาคต และลดความเสี่ยงความผิดปกติทางโครโมโซมในทารก
  • วางแผนสำรองให้ชีวิต: เพราะชีวิตไม่แน่นอน การแช่แข็งไข่คือการให้ “ความอุ่นใจ” กับตัวเองในวันข้างหน้า ลดความกดดันและความกังวลเรื่องนาฬิกาชีวภาพ

แช่แข็งไข่ ราคา ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร

หนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับผู้หญิงที่สนใจแช่แข็งไข่ คือ  “ต้องเตรียมงบเท่าไหร่?” การแช่แข็งไข่ ค่าใช้จ่ายในประเทศไทยค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล โปรโมชั่นหรือแพ็กเกจ โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการแช่แข็งไข่ 1 รอบการกระตุ้นและเก็บไข่ จะอยู่ที่ประมาณ 120,000 – 250,000 บาท ซึ่งโดยส่วนใหญ่คลินิกหรือโรงพยาบาลจะเสนอเป็น “แพ็กเกจแช่แข็งไข่” อยู่แล้ว

นอกจากนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายในการแช่แข็งไข่รายปี ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาไข่แช่แข็งไว้ในถังไนโตรเจนเหลวราคาประมาณ 5,000 – 10,000 บาทต่อปี และนอกจากค่าแช่แข็งไข่ ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้นเมื่อพร้อมมีบุตรและต้องการนำไข่แช่แข็งออกมาใช้ เช่น ค่าละลายไข่ ค่าทำเด็กหลอดแก้ว ค่าเลี้ยงตัวอ่อน หรือค่าตรวจโครโมโซมตัวอ่อน (PGT) อีกด้วย

เก็บไข่แช่แข็ง การแช่แข็งไข่ ขั้นตอนเป็นอย่างไร

การแช่แข็งไข่ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่หลายคนกังวล เรามาดูกันว่ามีขั้นตอนอย่างไรทำอะไร ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร เพื่อให้มีความเข้าใจในทุกขั้นตอน

1. ปรึกษาแพทย์

เมื่อไหร่: สามารถปรึกษาแพทย์ได้ทุกช่วงเวลาของรอบประจำเดือน

ใช้เวลานานแค่ไหน: 45 – 60 นาที

เมื่อมาปรึกษาเรื่องการฝากไข่ครั้งแรก แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอธิบายแต่ละขั้นตอนโดยละเอียด และตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการแช่แข็งไข่

ข้อแนะนำสำหรับคำถาม เช่น

  • คลินิกมีประสบการณ์ในการแช่แข็งไข่และการละลายไข่มากน้อยเพียงใด?
  • สามารถเก็บไข่ได้กี่ใบในหนึ่งรอบการกระตุ้น?
  • มีโอกาสที่ต้องทำการเก็บไข่มากกว่าหนึ่งรอบหรือไม่?
  • แช่แข็งไข่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? มีแพ็กเกจแช่แข็งไข่ไหม

อย่างไรก็ดี คำถามบางข้อที่เฉพาะเจาะจง (เช่น จะได้ไข่กี่ใบในหนึ่งรอบการเก็บไข่? หรือ ควรต้องทำการเก็บไข่กี่รอบถึงจะได้จำนวนไข่ที่เพียงพอ?) แพทย์จะประเมินแต่ละกรณี โดยดูจากประวัติ ผลตรวจร่างกายและตรวจเลือด เพื่อวางแผนให้เหมาะกับร่างกายและเป้าหมายของคุณที่สุด

2. การตรวจร่างกายและตรวจเลือด

เมื่อไหร่: วันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของรอบประจำเดือน

ใช้เวลานานแค่ไหน: 30 นาที

หลังจากพูดคุยและปรึกษากับแพทย์แล้ว การรักษาจะเริ่มในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน เพื่อตรวจเลือดและตรวจอัลตราซาวด์ หลังจากได้รับผลตรวจแล้ว จะสามารถตอบคำถามต่างๆ ที่เจาะจงได้มากขึ้น เช่น จำนวนไข่ที่คาดว่าจะเก็บได้ต่อครั้ง และโอกาสความสำเร็จโดยรวม

หากผลตรวจพร้อมและร่างกายอยู่ในสภาวะเหมาะสม สามารถเริ่มกระบวนการรักษาในวันเดียวกันนั้นได้เลย คุณจะได้รับยาฉีดกระตุ้นไข่โดยสามารถฉีดยาได้ด้วยตัวเองวันละครั้ง เพื่อกระตุ้นให้ฟองไข่ในรังไข่โตขึ้น พยาบาลจะแนะนำวิธีการฉีดยาอย่างละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจและทำได้อย่างปลอดภัย แต่หากรอบเดือนนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะเริ่มการรักษา แพทย์จะแนะนำให้รอรอบเดือนถัดไปเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

3. การกระตุ้นติดตามการตอบสนองของไข่

เมื่อไหร่: วันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของรอบประจำเดือน

ใช้เวลานานแค่ไหน: 10 – 12 วัน

หลังจากเริ่มฉีดยากระตุ้นไข่ รังไข่จะเริ่มสร้าง “ฟองไข่” หรือเซลล์ไข่จำนวนมากขึ้นในรอบนั้น การฉีดยากระตุ้นไข่ จะใช้เวลาประมาณ 10-12 วัน แพทย์จะนัดหมายเพื่อตรวจเลือดและอัลตราซาวด์ทุก 3-4 วัน เพื่อดูการตอบสนองของรังไข่และปรับยาให้เหมาะสม 

เมื่อฟองไข่โตได้ขนาดที่เหมาะสม แพทย์จะฉีดยากระตุ้นการตกไข่ “Trigger Shot” (เป็นยาฮอร์โมน human chorionic gonadotropin; hCG หรือ leuprolide acetate; Lupron) เพื่อช่วยให้ไข่หลุดออกจากผนังของถุงไข่ พร้อมสำหรับการเก็บไข่ในขั้นตอนถัดไป

4. การเก็บไข่และการแช่แข็งไข่

เมื่อไหร่: 36 ชั่วโมงหลังการฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก

ใช้เวลานานแค่ไหน: 60 นาที

เมื่อฟองไข่โตเต็มที่แล้ว แพทย์จะนัดวันเริ่มกระบวนการเก็บไข่ (egg retrieval หรือ Ovum Pick Up; OPU) ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณ 36 ชั่วโมงหลังฉีดยากระตุ้นไข่ตก

ในขัั้นตอนนี้ แพทย์จะทำอัลตราซาวด์เพื่อหาตำแหน่งฟองไข่ และใช้เข็มขนาดเล็กสอดผ่านช่องคลอดเข้าไปในฟองไข่เพื่อทำการดูดเก็บเซลล์ไข่ ตลอดกระบวนการนี้คุณจะได้รับยาให้สลบ จึงไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการเก็บไข่

หลังเก็บไข่เสร็จ จะสังเกตอาการที่ห้องพักฟื้นต่อประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อรอให้ฟื้นตัวจากยาสลบ จึงสามารถกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้านได้

ประมาณ 2-3 ชั่วโมงหลังเก็บไข่ ไข่สุกจะถูกแช่แข็งด้วยเทคนิคการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว หรือ “Vitrification” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไข่ของคุณจะถูกแช่แข็งด้วยการลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่เกิดผลึกน้ำแข็งในเซลล์ไข่ (ice crystals) หากไข่ถูกเก็บรักษาไว้ในห้องปฏิบัติการคุณภาพสูงที่ได้รับการควบคุมสิ่งแวดล้อมอย่างดีเยี่ยม ตลอดจนมีการติดตามปริมาณไนโตรเจนเหลวและความสมบูรณ์ของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ ไข่ของคุณจะคงคุณภาพไว้ได้เหมือนเดิมแม้เวลาจะผ่านไปนาน 

เมื่อคุณพร้อมที่จะเป็นคุณแม่ ไข่แช่แข็งของคุณจะถูกนำออกมาละลาย และเข้าสู่กระบวนการปฏิสนธิกับอสุจิ โดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ด้วยวิธี ICSI และเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการจนเติบโตกลายเป็นตัวอ่อน และย้ายกลับเข้าสู่มดลูกเพื่อให้เติบโตเป็นทารกสุขภาพดี

การแช่แข็งไข่และอสุจิ

เทคโนโลยีแช่แข็งเซลล์สืบพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไข่หรืออสุจิ กำลังกลายเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนชีวิตและครอบครัวให้สอดคล้องกับจังหวะเวลาที่เหมาะสม

แม้ว่าเป้าหมายจะคล้ายกัน นั่นคือเพื่อเก็บรักษาความสามารถในการมีลูกไว้ในอนาคต แต่กระบวนการ ความซับซ้อน และค่าใช้จ่ายของทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

หัวข้อแช่แข็งไข่แช่แข็งอสุจิ
ความซับซ้อนสูง (ต้องกระตุ้นไข่ และทำหัตถการ)ต่ำ (เก็บตัวอย่างได้เลย)
ระยะเวลา2-3 สัปดาห์1-2 ชั่วโมง (เสร็จในวันเดียว)
ความเจ็บปวดอาจมีความไม่สบายหลังการเก็บไข่ไม่มี
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น120,000 – 250,000 บาท5,000 – 15,000 บาท
ค่าฝากรายปี5,000 – 10,000 บาท2,000 – 5,000 บาท

การแช่แข็งอสุจิเป็นกระบวนการที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ส่วนการแช่แข็งไข่ แม้จะมีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการกระตุ้นฮอร์โมนและหัตถการเก็บไข่ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ล้ำค่าสำหรับผู้หญิงที่ต้องการรักษาความสามารถในการมีบุตรไว้ให้พร้อมในวันที่เหมาะสมที่สุด หากคุณสนใจเริ่มต้นแผนอนาคตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการแช่แข็งไข่หรืออสุจิ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับข้อมูลที่เหมาะกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของคุณ

แช่แข็งไข่ อายุเท่าไหร่ดี

“อายุ” นับเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของไข่ และโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต อายุที่เหมาะสมที่สุดในการแช่แข็งไข่ ผู้หญิงคือ ปลายอายุ 20 ถึง ต้นอายุ 30 (โดยเฉพาะช่วง 30-35 ปี) ด้วยเหตุผลหลัก 3 ข้อ:

  1. คุณภาพและปริมาณไข่ดีที่สุด: ในช่วงวัยนี้ ร่างกายยังผลิตไข่ที่มีคุณภาพสูง โดยมีความผิดปกติทางโครโมโซมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงอายุมากกว่า 35 ปี ส่งผลให้อัตราการปฏิสนธิสูงกว่า และลดความเสี่ยงในการแท้งในอนาคต อีกทั้งยังมีปริมาณไข่สำรองในรังไข่ค่อนข้างมาก จึงมีโอกาสกระตุ้นไข่ 1 รอบแล้วได้จำนวนไข่ที่สมบูรณ์เพียงพอสำหรับการแช่แข็งไข่ไว้ใช้ในอนาคต
  2. ความคุ้มค่าสูง: เพราะมีแนวโน้มเก็บไข่ได้จำนวนมากจากการกระตุ้นเพียงรอบเดียว ทำให้ไม่ต้องทำซ้ำหลายรอบ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้
  3. มีเวลาในการตัดสินใจ: เป็นการ “ซื้อเวลา” และลดความกดดันเรื่องการมีบุตร ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับเรื่องงาน การเรียน หรือใช้ชีวิตตามที่ต้องการ พร้อมความมั่นใจว่าคุณยังมี “โอกาส” เก็บไว้สำหรับอนาคต

ถ้าอายุเกิน 35 ยังแช่แข็งไข่ได้ไหม? คำตอบคือ ยังสามารถทำได้ แต่เนื่องจากคุณภาพและปริมาณของไข่ลดลงตามอายุ จึงอาจต้องกระตุ้นหลายรอบเพื่อให้ได้ไข่จำนวนเพียงพอ และอาจต้องพิจารณาใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มเติม เช่น การคัดโครโมโซมตัวอ่อน (PGT) เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในอนาคต

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ “อายุจริง” อาจไม่ตรงกับ “อายุรังไข่” บางคนอายุเพียง 30 ปี แต่รังไข่เสื่อมเร็วกว่าปกติ หรือบางคนอายุ 37 ปี แต่รังไข่ยังทำงานดีอยู่ ดังนั้นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก เพื่อตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน AMH (บอกปริมาณไข่ที่เหลืออยู่) และอัลตราซาวด์นับจำนวนไข่ตั้งต้น (AFC) โดยผลตรวจเหล่านี้จะช่วยประเมินได้ว่า “คุณควรรีบแช่แข็งไข่หรือยังสามารถรอได้” และสามารถวางแผนได้อย่างเหมาะสมและแม่นยำที่สุด

แช่แข็งไข่ เก็บได้กี่ปี

ในทางวิทยาศาสตร์ สามารถเก็บไข่แช่แข็งได้นานไม่มีกำหนดโดยที่คุณภาพยังคงเดิม ด้วยเทคโนโลยี Vitrification (การแช่แข็งแบบผลึกแก้ว) ไข่จะถูกลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วจนถึง -196 องศาเซลเซียสในถังไนโตรเจนเหลว ซึ่ง ณ อุณหภูมินี้ กระบวนการทางชีวภาพทั้งหมดภายในเซลล์จะหยุดลงโดยสมบูรณ์เปรียบเสมือนการ “หยุดเวลา” ของเซลล์ไข่ไว้ ณ วันที่เก็บ คุณภาพของไข่จะยังคงเหมือนเดิมกับวันที่ถูกแช่แข็ง

แต่ในทางปฏิบัติและทางกฎหมายของไทย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 มีข้อจำกัดว่า ผู้หญิงที่จะรับการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกจะต้องมีอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์

นั่นหมายความว่า คุณสามารถฝากไข่แช่แข็งไว้ได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ยังจ่ายค่าฝากรายปี แต่เมื่อคุณตัดสินใจจะนำไข่มาใช้ ต้องปฏิสนธิและย้ายตัวอ่อนกลับเข้าร่างกายก่อนอายุ 55 ปีนั่นเอง

ตัวอ่อนแช่แข็ง ได้กี่ปี

การแช่แข็งตัวอ่อน (Embryo Freezing) มีหลักการคล้ายกับการแช่แข็งไข่ คือ สามารถเก็บไว้ได้นานมากโดยไม่เสื่อมสภาพ หากใช้เทคโนโลยี Vitrification ซึ่งลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วจนกระบวนการภายในเซลล์หยุดลงอย่างสมบูรณ์ 

อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย ในเรื่อง “อายุของฝ่ายหญิง” ที่จะสามารถย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกได้จนถึงอายุไม่เกิน 55 ปีบริบูรณ์

นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเพิ่มเติมที่สำคัญ นั่นคือ หากเกิดกรณีที่สามีหรือภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตจะไม่สามารถนำตัวอ่อนที่เกิดจากเซลล์สืบพันธุ์ของทั้งสองฝ่ายมาใช้ในการตั้งครรภ์ได้อีกต่อไป และตัวอ่อนแช่แข็งนั้นจะต้องถูกทำลายตามที่กฎหมายกำหนด

แช่แข็งไข่ ดีไหม

การตัดสินใจแช่แข็งไข่เป็นเรื่องใหญ่และมีหลายมิติให้พิจารณา และอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน ซึ่งการแช่แข็งไข่ก็มีข้อดีและข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้

การแช่แข็งไข่มีข้อดีอย่างไรบ้าง

  1. ซื้อเวลาและลดแรงกดดัน : เปรียบเสมือนเป็นการ “หยุดเวลา” ของภาวะเจริญพันธุ์ไว้ ณ ช่วงที่ไข่คุณภาพดีที่สุด ให้คุณได้ไปโฟกัสกับเป้าหมายอื่นในชีวิตได้อย่างเต็มที่ เช่น ทำงาน เรียนต่อ ท่องเที่ยว หรือรอเจอคนที่ใช่ โดยไม่ต้องรีบตัดสินใจมีลูก ลดความกดดันจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  2. รักษาคุณภาพไข่ช่วงที่ดีที่สุด : คุณภาพและปริมาณไข่ของผู้หญิงจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังอายุ 35 ปี การแช่แข็งไข่ในช่วงอายุ 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้นๆ หมายความว่าคุณกำลังเก็บ “ไข่คุณภาพดี” ที่มีความเสี่ยงความผิดปกติทางโครโมโซมน้อยไว้ใช้ในอนาคต
  3. เพิ่มโอกาสในการมีบุตรในอนาคต : หากในอนาคตคุณมีปัญหามีบุตรยาก และต้องทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) การมีไข่คุณภาพดีแช่แข็งไว้จะเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และลดความเสี่ยงแท้ง
  4. เป็นหลักประกันด้านสุขภาพ : สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องรับการรักษาที่อาจกระทบต่อรังไข่ เช่น เคมีบำบัด ฉายแสง หรือการผ่าตัดที่รังไข่ การแช่แข็งไข่ไว้ก่อนเริ่มการรักษาถือเป็นสิ่ง จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรักษาโอกาสในการมีลูกไว้

ข้อควรพิจารณาและข้อจำกัด

  1. ค่าใช้จ่ายสูง : ทั้งค่าใช้จ่ายในกระบวนการเก็บไข่และค่าฝากไข่รายปีต่างเป็นภาระทางการเงินที่ต้องวางแผนอย่างดี
  2. ไม่ได้รับประกันความสำเร็จ : การแช่แข็งไข่เป็นเพียงการเพิ่มโอกาส ไม่ได้การันตีว่าจะตั้งครรภ์ได้สำเร็จแน่นอน
  3. ต้องใช้ความอดทน : มีการฉีดยาทุกวันเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ และต้องไปพบแพทย์เพื่อติดตามผลหลายครั้ง อาจมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน รวมถึงการทำหัตถการเก็บไข่ที่ต้องวางยาสลบ นอกจากนั้นอาจจะต้องทำมากกว่า 1 รอบเพื่อให้ได้ไข่จำนวนที่เหมาะสม
  4. อาจจะไม่ได้ใช้ไข่ที่แช่แข็งไว้ : หลายคนแช่แข็งไข่ไว้ แต่สุดท้ายก็ตั้งครรภ์ได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ไข่แช่แข็งนั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้

หากคุณกำลังมองหาว่า แช่แข็งไข่ ที่ไหนดี สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ที่ Superior A.R.T. เราคือหนึ่งในคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากชั้นนำในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีแช่แข็งแบบ Vitrification มีห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล พร้อมด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางดูแลใกล้ชิดทุกขั้นตอน เราเชื่อมั่นว่า ไข่ทุกใบที่เก็บไว้ คือโอกาสสำคัญในอนาคต และภารกิจของเราคือการเพิ่มความสำเร็จให้คุณได้มากที่สุด 

เกี่ยวกับ ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที

ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2550 โดยการร่วมมือระหว่างแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และเด็กหลอดแก้วในประเทศไทยและประเทศออสเตรเลีย ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. เป็นคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากและวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนที่เพียบพร้อมด้วยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ชำนาญเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproduction Technology – A.R.T.)  พวกเรามีความมุ่งมั่นจะสานทุกความฝันในการมีบุตรของทุกครอบครัวให้สมบูรณ์

อ้างอิง

ข่าวสารและบทความอื่นๆ

𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫𝐢𝐨𝐫 𝐀.𝐑.𝐓. 𝐋𝐈𝐕𝐄 : 🅔🅟.56 ❝8 คำถามยอดฮิต ของคนมีลูกยาก❞

ไขข้อข้องใจกับ ❝8 คำถามยอดฮิต ของคนมีลูกยาก❞ ที่มักจะถูกถามเข้ามาบ่อยๆ คุณหมอนิ พญ. นิศารัตน์ สุนทราภา จะมาตอบคำถามทุกข้อสงสัยให้ทราบกัน

🔬นักวิทย์ 💬 อยากเล่า : Embryologist Day 25 July

25 กรกฎาคมของทุกปี คือ วัน Embryologist ในโอกาสนี้ เราขอพาไปชมเบื้องหลังการทำงานของทีม Embryologist ในห้องปฏิบัติการเลี้ยงตัวอ่อน

ถามหมอ 💬 กับหมอจิว : รังไข่เสื่อมก่อนวัย! จะมีลูกได้ไหม

รังไข่เสื่อมก่อนวัย เกิดขึ้นได้จริงหรือ? เกิดจากอะไร? แล้วแบบนี้จะยังมีลูกได้หรือไม่? คุณหมอจิวจะมาตอบข้อสงสัยนี้